November 13, 2018

[OS] FTISLAND 'ยังคิดชื่อเรื่องไม่ออกและขอดองไว้ก่อน' (SEUNGJAE)




╶ ╷╶ ╷Pt.1 โอทีนี้เพื่อแม่╶ ╷╶ 









   เวลาเลิกงาน






   “แจจิน สุขสันต์วันเกิด”

   “เฮ่ย ไอ้แจ๊จ สุขสันต์วันเกิดเว่ย”

   “เออ ขอบใจนะพวกมึง”

   “ไม่ต้องอยู่ดึกมากหรอกนะ ผมไปก่อนล่ะ สุขสันต์วันเกิดนะไอ้หนุ่ม”

   “แหะ ขอบคุณครับหัวหน้า”


   เจ้าของวันเกิดครั้งที่ยี่สิบเจ็ดของชีวิตส่งยิ้มสุดประหม่าไปให้หัวหน้างานของเขา อี แจจิน หนุ่มหน้าหวานใจ(โคตร)แมนประจำฝ่ายขายยืนไหล่ตกหลังเห็นเพื่อนร่วมงานคนสุดท้ายเพิ่งสแกนนิ้วมือออกจากออฟฟิศแห่งนี้ไป


โอทีนี้เพื่อแม่


   วลีปลุกใจตัวเบ้อเร่อบนโพสต์อิทที่ติดอยู่บนขอบมอนิเตอร์ทำให้เจ้าของโต๊ะทำงานตัวนี้ยิ้มอย่างจริงใจออกมาได้อีกครั้งในรอบหลายชั่วโมง

   แปลกใจล่ะสิว่าขนาดวันนี้เป็นวันเกิดแล้วทำไมไม่รีบกลับบ้านไปฉลองกับครอบครัว แจจินผู้แสนขยันเที่ยวตอบคำถามนั้นกับคนรู้จักเป็นสิบ ๆ รอบแล้วว่า



   พอดีที่บ้านผมไม่ได้อินกับประเพณีกินเลี้ยงวันเกิดเท่าไหร่น่ะ



   ไม่ได้เป็นพวกติสท์หรืออะไรทั้งนั้น ไม่อินก็คือไม่อิน ตลอดเวลาเกือบยี่สิบหกปีกับชีวิตหนุ่มโสดของเขา การจะได้เป่าเค้กวันเกิดสักทีก็ต้องมีเพื่อนซื้อมาเซอร์ไพรส์เท่านั้นแหละ



10 ข้อความใหม่


   “เอาไว้ค่อยตอบตอนงานเสร็จ” แจจินพูดกับโทรศัพท์มือถือในมือตัวเอง เท่าที่ได้ไล่อ่านไว ๆ บนช่องแจ้งเตือน แชทพวกนั้นส่วนใหญ่ก็เป็นคำอวยพรจากแก๊งเพื่อนเก่าเพื่อนใหม่ที่ถึงแม้ว่าจะตอบช้าหน่อยก็คงไม่มีใครว่าอะไร


   เวลางานรอบดึกกำลังจะเริ่มขึ้นในไม่ช้า กาแฟเย็นชงเองถูกดูดหายไปเกือบครึ่งแก้ว และสมองที่(ต้อง)กลับมาปลอดโปร่งพร้อมใช้งานอีกครั้ง พนักงานหนุ่มบ่นนู่นนี่อยู่คนเดียวแปบนึงแล้วก็เข้าสู่โหมดคนใจสู้ไปตลอดหกชั่วโมงต่อจากนี้






   ครืด... ครืด...


20 ข้อความใหม่ 


   ไฟออฟฟิศปิดเกือบหมดเหลือไว้แค่ดวงที่จำเป็นต้องเปิด แจจินมีเวลาอ่านข้อความทั้งหมดแล้วแต่กลับต้องเดินหน้าบูดลงมาจากอาคาร


   “เลิกงานแล้วเหรอคร้าบน้อง!”


   หนุ่มร่างเล็กที่กำลังเหม่อลอยเผลอสะดุ้งด้วยความตกใจ


   


   พี่ยาม! ! !


   “เอ้อ ครับ! ! !” ไม่รู้เมื่อกี้กำลังคิดอะไรอยู่ ทั้งสองฝ่ายตอนนี้เลิ่กลั่กพอกันเพราะปกติถ้าคืนไหนอี แจจิน ทำโอที พี่ยามคนนี้ก็มักจะทักทายเขาทุกครั้งก่อนกลับบ้านอยู่แล้ว

   “โอ๊ะ ฮ่า ๆ ทำไมวันนี้ขวัญอ่อนจังคร้าบ ฮึ” พี่ยามผู้พกบุคลิกชายขี้เมาติดตัวตลอดเวลาถามพลางหัวเราะ แววตาลั้นลาผิดสังเกตทำให้อีกฝ่ายยิ่งรู้สึกแปลก ๆ มากขึ้นไปอีก

   “เอ่อ สงสัยทำงานเยอะเกินครับก็เลยเบลอ ๆ” เขารีบตอบแล้วจึงเร่งฝีเท้าออกไปจากตรงนั้นให้ดูแนบเนียนเหมือนว่าไม่มีอะไรที่สุด “ผมกลับแล้วนะครับ ไว้เจอกัน”


   แจจินเดินไปกลั้นขำไป มันจะมีอะไรได้อีกล่ะก็ในเมื่อพี่ยามแกเป็นคนนิสัยแบบนั้นอยู่แล้ว ยิ่งวันไหนมีไอ้จิ๊กโฉ่วหมาจรจัดแถวนี้มาเล่นด้วยอีกนะ พอเลิกงานปุ๊บเป็นต้องได้ยินแกนั่งนินทาเมียให้หมาฟังอยู่เรื่อย อยากเป็นหนุ่มโอทีก็ต้องทำตัวให้ชินได้แล้วสิเจ้าแจจิ---


   จ๊ะเอ๋! ! ! ! !

   เฮ่ย ไอ้เหี้ย! ! !


   ช่วงเวลาหัวใจวายในวินาทีที่แจจินเกือบจะพ้นมุมตึกตรงนั้นไป จู่ ๆ ก็มีไอ้บ้าหน้าคุ้นกระโดดโผล่มาจากไหนไม่รู้แล้วก็ทำท่าแลบลิ้นปลิ้นตาใส่เขา ร่างเล็กยกมือขึ้นมากุมหน้าอกเพื่อเช็คว่าเขาตายหรือยังโดยอัตโนมัติ


   “ไอ้เวร” หลังจากดึงสติเข้าร่างได้และเห็นว่าเจ้านั่นมันมาพร้อมกับกล้องโทรศัพท์ที่เปิดแฟล็ชบันทึกวิดีโออยู่เขาก็ยิ่งโมโห “เล่นอะไรของแกเนี่ย ซึงฮยอน!”

   “แฮปปี้เบิร์ธเดย์ค้าบบบ! ! !”


   ใบหน้าหลังกล้องยิ้มกว้างจนตีนกาโผล่ แต่โชคดีหรือโชคร้ายก็ไม่รู้ที่ตอนนี้เจ้าของวันเกิดกำลังโดนไฟจากแฟล็ชส่องปะทะหน้าอย่างจังจนมองไม่เห็นอะไรเลย และที่แย่ไปกว่านั้น ฝ่ายที่แกล้งเขาถึงกับตกใจเมื่อสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่างจากวิดีโอที่ถ่ายอยู่


   “ไอ้...” แจจินปาดหยดน้ำตาออกจากแก้มและซึงฮยอนก็รับรู้ทุกการกระทำของอีกฝ่ายผ่านหน้าจอมือถือ

   “เฮ้ย ๆ! พี่ครับบบ” แขนยาวรีบคว้าเข้ากอดคนตัวเล็ก “โอ๋... ตกใจผมอ่อพี่แจจิน”

   “ก็เออดิวะ อ...ไอ้ฉิบหาย แกเห็นมั้ยเนี่ยตัวชั้นสั่นไปหมดแล้ว” เสียงก่นด่าแทรกผ่านร่างกายที่แนบเบียดกันอยู่ออกมา รุ่นน้องตัวสูงรู้สึกได้แล้วว่าแจจินกำลังตกใจจริง ๆ “ไอ้บ้าเอ๊ย ไอ้เด็กบ้า!”

   “ฮื่อ ขอโทษครับพี่ สุขสันต์วันเกิดนะแจจิน ขวัญเอ๊ยขวัญมานะ”


   ประโยคขอโทษและคำปลอบขวัญถูกส่งออกมารัว ๆ จนคนผิดแทบจะลิ้นพัน แจจินเองก็เดาได้เหมือนกันว่าแผนการเซอร์ไพรส์วันเกิดแฟน(ครั้งแรก)แผนนี้ก็คงทำเอาเจ้าเด็กนี่ตื่นเต้นไม่ใช่น้อย มือหนาคอยลูบหัวลูบหลังคนรักไม่หยุดจนร่างในอ้อมกอดเริ่มจะเคลิ้มไปด้วยแล้ว


   แต่ว่าไม่ได้!

   นี่มันยังไม่พ้นเขตที่ทำงานชั้นเลยนะโว่ย!


   “มาพี่แจ๊จ จุ๊บให้อภัยผมหน่อย”

   “อะไร ไม่เอา” ไม่ได้เลยไอ้นี่ เขาบอกปัดโกรธ ๆ สองแขนอวบที่ยังรัดตัวไว้อยู่พาแจจินหมุนติ้วเพื่อที่จะให้ทั้งคู่เดินออกไปจากตรงนี้

   “ใจร้ายที่สุดเลย” ซึงฮยอนพยายามเล่นบทเด็กขี้งอน แต่ก็ช่างโคตรไม่เข้ากันกับหุ่นหมีล่ำของตัวเอง “ผมอุตส่าห์มาเตี๊ยมกับพี่ยามตั้งแต่ทุ่มครึ่ง”

   “เหรอ”

   “เออดิ”

   “แล้วกับชั้นที่รอแกส่งไลน์มาแฮปตั้งแต่เที่ยงคืนเมื่อวานอะ”


   พูดไปงั้นแหละ เขารู้อยู่แล้วว่าที่ซึงฮยอนเงียบหายไปแบบนั้นก็เพราะว่าจะต้องมีเซอร์ไพรส์ แบบที่ในละครเขาทำกันไง

   แต่รายนั้นดูเหมือนจะซีเรียสกับคำตัดพ้อ(ปลอม ๆ)เมื่อครู่ แขนข้างที่เพิ่งเปลี่ยนมาโอบไหล่แฟนตัวเล็กค่อย ๆ ดันแจจินเข้ามาจูบ มุมอ่อนโยนแบบนี้คือไม้ตายของเจ้าเด็กดื้อที่เอาชนะเขาได้อยู่หมัดเสมอ 


   “อ่านข้อความในไลน์หรือจะสู้ฟังจากปาก...ข้าง ๆ หูอะครับ” ซึงฮยอนละใบหน้าออกมากระซิบ

   “กะไว้อยู่แล้ว” คนถูกยั่วอมยิ้ม ในใจแอบนับถอยหลังว่าคุณชายขี้แกล้งคนนี้จะกระซิบบอกคำนั้นกับเขาเมื่อไหร่


   ...

   แต่ทว่า

   ...


   “เออพี่ ไปกินข้าวต้มโต้รุ่งกันดีกว่าผมหิวละ”





╶ ╷╶ ╷Pt.2 หนำเลี๊ยบเม็ดนี้เพื่อพี่╶ ╷╶ 






   ยิ้มหวานเจี๊ยบจากเด็กหนุ่มลูกเจ้าของร้านคนเมื่อกี้ยังฉายวนซ้ำอยู่ในหัวของซึงฮยอน...


   เพราะว่าน้องคนนั้นยิ้มให้เขาเหรอ

   เปล่า เพราะมันยิ้มให้แจจินต่างหาก


   "พอได้แล้วน่า" คนต้นเรื่องบ่นขณะยังเคี้ยวข้าวต้มตุ้ย ๆ "ไอ้นั่นมันก็ยิ้มให้ลูกค้าทุกคนอะแหละ หิวไม่ใช่อ่อ รีบกินเร็วเข้า"


   กับข้าวเกือบสิบจานวางอยู่ตรงหน้าพวกเขา แจจินไม่รอช้ารีบซัดทุกอย่างด้วยความหิวโหย กลับกัน ทางด้านของคนที่เป็นฝ่ายชวนมากินยังนั่งเท้าคางคิ้วขมวด และก็คงจะสวดแช่งเจ้าเด็กนั่นอยู่ในใจ


   ที่เล่าไปตั้งแต่แรกว่า อี แจจินนั้นอยู่กับชีวิตหนุ่มโสดมาตั้งเกือบยี่สิบหกปี นั่นแสดงว่าพ่อหนุ่มซึงฮยอนคนนี้เป็นแฟนคนแรกของเขาหรือเปล่า

   ถูกต้อง


   ซง ซึงฮยอน เด็กกะโปกคนหนึ่งที่โชคชะตาฟ้าลิขิตพาให้ทั้งคู่มาเจอกันครั้งแรกเมื่อประมาณเกือบสองปีที่แล้วในทริป CSR ของบริษัทที่ร่วมกันจัดขึ้นกับอีกบริษัทในเครือเดียวกัน กิจกรรมไอซ์เบรกครั้งนั้นคงเป็นอะไรที่แจจินไม่มีวันลืมได้ลง เพราะนั่นคือวันที่เขาได้รู้จักกับพนักงานฝ่ายบุคคลที่กวนประสาทที่สุดในโลก แถมยังเป็นมนุษย์คนแรกที่ทำให้หัวใจเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต


   ส่วนซึงฮยอนตอนนี้เป็นยังไงน่ะเหรอ

   เป็นบ้า


   "สั่งข้าวต้มเพิ่มแล้ว สนใจหนำเลี๊ยบเพิ่มด้วยมั้ยฮะ"


   แจจินหันขวับขึ้นไปหาเสียงอ่อย ๆ เหนือหัวตัวเอง เด็กเสิร์ฟคนเดิมกำลังนำเสนอถ้วยหนำเลี๊ยบในมือด้วยท่าทางแสนมั่นอกมั่นใจพ่วงด้วยรอยยิ้---


   "ไม่สน!"

   "ฮึ..." หนึ่งคนที่ยังตามอะไรไม่ทันสักอย่างก้มลงมองของดองสีดำในชามข้าวต้มบนโต๊ะที่คุณแฟนขี้หวงเพิ่งตักจากชามตัวเองมาใส่ไว้ให้

   "อ๋า โอเคฮะ" ลูกชายเจ้าของร้านที่หน้าตาเข้าข่ายได้เป็นพ่อค้าแซ่บเดินยักไหล่จากไปตามสไตล์คนโดนหักหน้า

   "พอ เลิก! แจจิน ถ้าไม่จำเป็นอย่ามากินร้านนี้อีกนะ" ซึงฮยอนหยุดชะงักมื้อดึกของเขาไว้แต่เพียงเท่านั้น อีกรายที่ทั้งหมั่นไส้ทั้งเห็นใจก็ทำได้แค่พยักหน้าหงึก ๆ รับคำสั่ง

   "แล้วหนำเลี๊ยบเม็ดนี้อะ เอาไง"

   "กินไปเลย ผมให้..." ร่างสูงพูดหน้านิ่ง "...เป็นของขวัญวันเกิดละกันครับ"

   "..."





╶ ╷╶ ╷To be continued...╶ ╷