August 30, 2017

[OS] FTISLAND '배고파여...이제 밥먹자' (SEUNGJAE)

photo credit: @FTlovechuu on Twitter

Rating PG-13
✑ ฟิควูบ อย่าถามหาแก่นสาร









   และแล้ววันที่ 2 ของ FTISLAND LIVE [X] IN SEOUL ก็ได้เดินทางมาถึงช่วงนาทีสุดท้าย...





"ขอบคุณทุกคนมากครับ แล้วเจอกัน" เมนโวคอลของวงกล่าวกับแฟนเพลงในฮอลล์ก่อนเดินนำสมาชิกคนอื่นเข้าหลังเวทีไป



"อ่า เยี่ยมจริงๆ ทุกคนทำดีมาก" ฮงกิกล่าวกับเพื่อนในวงและทีมงานที่ยืนอยู่ใกล้เคียง

"เย้ จบแล้ว ผมหิวข้าวจัง"
"ซึงฮยอน อย่าบอกนะว่า" จงฮุนเฝ้ามองดูอากัปกริยาของมักเน่คนนี้บนเวทีอยู่ตลอดเวลา "เมื่อกี๊ที่นายอยู่ไม่นิ่งเลยนี่เพราะหิว"
"ก็ ใช่ครับฮยอง แหะๆ"

"จะกินไรเยอะแยะ พุงหนายิ่งกว่าหมูสามชั้นแล้ว" แจจินเดินผ่านเขาไปพร้อมกับคำพูดเหน็บแนม



   ซึงฮยอนส่งยิ้มกวนประสาทให้กับแผ่นหลังของสมาชิกวงที่แก่กว่าเขาหนึ่งปี เอฟทีทั้งห้าคนมีเวลาพักสิบนาทีสำหรับเปลี่ยนเสื้อผ้า จากนั้นก็ต้องไปพบปะกับเหล่าเพื่อนและญาติที่รอพวกเขาอยู่ด้านนอก


.
.
.

"ถึงจะอ้วนแต่ก็ไม่เที่ยวไปเปิดนมให้ใครดูอะ" ซึงฮยอนที่เข้ามาในห้องแต่งตัวก่อนแจจินทักทายเขาด้วยประโยคประชดแดกดัน


"แหม ก็ใครเป็นคนเริ่มล่ะ"

"เอ้า นี่แค่แบ่งปันความเห็นเอง ฮยองอยากโชว์ก็บอกมาเห๊อะ"



   แจจินที่กำลังจะถอดเสื้อยืดตัวที่ใส่เล่นในคอนเสิร์ตออกรีบเอี้ยวตัวมาจะตีปากซึงฮยอน แต่ก็พลาดเหมือนทุกครั้งเพราะอีกคนหลบทัน




"พูดมากจริง เปลี่ยนชุดไปเงียบๆเลย"




   ซึงฮยอนบ่นงุบงิบอยู่คนเดียวอย่างกับคนแก่ ถ้าเป็นคนอื่นคงประหลาดใจ แต่แจจินชินกับนิสัยนี้ของเพื่อนร่วมวงแล้ว




"เฮอะ ไม่รู้รึไงว่าหวง" ร่างสูงโพล่งขึ้นมาหลังจากความเงียบยาวนานเกือบนาที เขาเพิ่งติดกระดุมเชิ้ตแขนยาวลายพร้อยของตัวเองเสร็จ


"เดี๋ยวนะ ซึงฮยอน ฮ่าๆ" แจจินหัวเราะลั่น "นี่ก็หัวนมชั้นปะ"



   หวงเหิงอะไร พวกเขาสองคนเป็นแค่เพื่อนกันเองนะ




"กี่สายตาในฮอลล์นั่นน่ะที่ได้เห็น"

"แล้วไงวะ หรือชั้นถอดให้นายดูได้แค่คนเดียวอย่างงั้นเหรอ" แจจินเริ่มรำคาญความงี่เง่าไม่เข้าเรื่องของเมมเบอร์รุ่นน้อง "ซึงฮยอน นายคงหิวจนสติหลุดแล้ว"
"อ่า คงงั้น"



   คราวนี้ซึงฮยอนเงียบแบบเงียบจริงๆ ภายในห้องสี่เหลี่ยมขนาดไม่ใหญ่มากเหลือเพียงแต่เสียงเครื่องปรับอากาศรุ่นเก่าดังออกมาจากเพดาน



   แจจินถือวิสาสะรื้อค้นอะไรบางอย่างในเป้หนังของสไตล์ลิสต์คนสนิทอยู่สักพักก่อนจะหยิบนมจืดกล่องหนึ่งออกมาและเดินไปหาคนที่เขาคิดว่าน่าจะกำลังโมโหหิว




"อะนี่ รองท้องไปก่อน กว่าจะคุยอะไรกับพวกข้างนอกเสร็จก็คงเป็นชั่วโมง"




   ซึงฮยอนรับกล่องนมจากมือแจจินไปอย่างว่าง่าย สีหน้าหงอยๆของเขาตอกย้ำให้อีกคนรับรู้ว่ามือกีต้าร์ตัวโย่งคนนี้หิวโซจริงจัง




"ฮยอง"

"ทำไมถึงปล่อยให้ท้องว่างอย่างนี้นะ เล่นตั้งเกือบสามชั่วโมงแทนที่จะกินข้าวให้มันอิ่มๆ" รุ่นพี่คนสนิทของซึงฮยอนเข้าสู่โหมดพี่ชายที่แสนดีตำหนิเขาอย่างเป็นห่วง
"ฮยองนิม ฟังผมหน่อยๆ" ซึงฮยอนทำเสียงงอแงแบบคนไม่รู้จักโตใส่แจจินที่กำลังจะอ้าปากเทศนาเขาอีกหนึ่งชุด



   คนแก่กว่ากรอกตามองบนอย่างเอือมระอา



   ไม่มีใครเคยเห็นซึงฮยอนในลุคเด็กขี้อ้อนแบบนี้ ยกเว้นเขา




"อะไร"




   มืออีกข้างที่ไม่ได้ถือกล่องนมยกขึ้นกวักเรียกแจจินซึ่งยืนท่อนบนเปลือยเปล่าอยู่อีกด้านหนึ่งของห้อง




"แจจินอ่า มาเร็วๆสิค้าบ"




   เรื่องอะไรจะต้องยอมเดินไปหาคนขี้เอาแต่ใจในสภาพแบบนี้ มือเบสร่างเล็กหันกลับไปสวมเสื้อให้เสร็จก่อนแล้วจึงค่อยเดินกลับมา



   คนที่นั่งรออยู่รีบดูดนมให้หมดกล่องเมื่อแจจินเข้ามาใกล้ในระยะที่เอื้อมถึง ขณะเดียวกัน แขนที่ยังว่างงานก็คว้าเข้าโอบเอวชายตรงหน้า



   แจจินรู้อยู่แล้วว่าเขาต้องเจอกับลูกอ้อนแบบนี้



   ซึงฮยอนทำหน้ายู่เงยหัวมองอีกคน แขนทั้งสองข้างกอดแจจินแน่น




"เป็นไรอีก ห้ะ"



"ยังไม่อิ่มอะ" ร่างหนายื่นคางมาวางที่หน้าท้องของพี่ชายสุดที่รัก

"โอ่ย รอก่อนสิตอนนี้กระเพาะมันยังไม่ทันได้รู้ตัวเลย" แจจินยีผมที่เซ็ทมาดีของซึงฮยอนจนยุ่งเหยิงอย่างมันเขี้ยว "ออกไปข้างนอกมั้ยล่ะ เผื่อมีใครซื้ออะไรมาให้กิน"
"ไม่อะ" ซึงฮยอนส่ายหน้าไปมา "ผม ผมหิวนม"
"จะบ้าเหรอ เมื่อกี๊ก็กินไปแล้วไง"
"ฮ่าๆ ไม่"
"ไม่เม่ยอะไรเล่า" ตอนนี้คนที่ถูกกอดอยู่พยายามขยับตัวให้หลุดพ้นจากพันธนาการ "สมองกลับ ลิ้นไม่รับรสเหรอ"


"อือ อย่าดิ้นสิครับฮยอง" พูดแล้วซึงฮยอนก็รัดแจจินแน่นยิ่งกว่าเดิม




   ร่างเล็กเริ่มรู้สึกตงิดๆเพราะตอนนี้สายตาบ้องแบ๊วเหมือนลูกหมาบนใบหน้าของคนร้อยเล่ห์มันถูกแทนที่ด้วยสายตาแบบอื่นแล้ว




"ก็เมื่อกี๊มันนมจืด..." ซึงฮยอนลุกขึ้นลากลำตัวแนบไปกับร่างของแจจิน ฝ่ามือหนาเลื่อนลดลงไปกดจับบั้นท้ายที่เขาคุ้นเคยดี "ผม อยากกินนมช็อกโกแลตอะครับ"




   คนตัวสูงหยอกล้อเขาด้วยการเค้นบีบเนื้อแน่นใต้สองฝ่ามือ และดูเหมือนว่าแจจินก็กำลังเคลิบเคลิ้มไปกับการกระทำนั้นด้วยเช่นกัน



แต่...



ไม่ได้!


"เฮ้ย ซึงฮยอน ไม่เอา" แจจินผลักเขาออก สีหน้าเคร่งเครียดขึ้น "ไม่ใช่ตอนนี้ แล้วก็ไม่ใช่ที่นี่ด้วย ไป ออกไปข้างนอกได้แล้วเร็ว"


   สุดท้ายก็สามารถเรียกตัวเองกลับมายังโลกแห่งความเป็นจริงได้ ซึงฮยอนเห็นแจจินกำลังจะเปิดประตูห้องออกไปแล้ว


"ฮ...ฮยองครับ"


   แจจินชะงักมือที่กำลังจะเอื้อมไปหมุนลูกบิดประตูไว้ก่อน


"นี่ วันนี้ที่บ้านนายก็มาด้วยไม่ใช่เหรอ" เขาหันหน้ากลับมาถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง


"เอ่อ ใช่ครับ"
"งั้นเราก็ต้องรีบออกไปหาพวกเขาก่อน แล้วเดี๋ยวคืนนี้"
"คืนนี้อะไร ฮยอง"



   ร่างเล็กยืนหลังพิงประตูและแอบส่งสายตาขี้เล่นมายังคนที่นั่งลุ้นกับคำตอบอยู่



"นายจะมาค้างบ้านชั้นก็ได้"



"..." ซึงฮยอนถึงกับกลืนน้ำลายดังอึกเพราะขณะที่พูดแจจินยกมือข้างหนึ่งของตัวเองขึ้นมาสัมผัสหน้าอกอย่างมีนัยยะ



"มากินนมไง"






-  จบ  -

ใครอ่านแล้วชอบหรือไม่ชอบตรงไหนก็เม้นท์มาบอกกันได้นะคะ

August 11, 2017

[OS/NC-17] FTISLAND 'รับน้อง' (SEUNGMIN)

nc คู่ซึงมินเรื่องแรกของไรท์เตอร์
ขออนุญาตใช้ reference เก่า เพราะจินตนาการสองคนนี้ในปัจจุบันไม่ได้แล้ว 555

▰ ▰  ▰ ▰  ▰ ▰  ▰ ▰  ▰ ▰  ▰ ▰  ▰ 

รั บ น้ อ ง



               paring:   song seunghyun x choi minhwan
               genre:    a/u, yaoi, smut, incest
               rating:    nc-17







-   -   -



    "ซึงฮยอน ไหนๆก็กลับมาบ้านแล้ว ไปรับน้องที่สนามฟุตซอลหน่อยสิลูก"
    "อะไรนะฮะ เดี๋ยวนี้มินฮวานมันเล่นกีฬาแล้วเหรอ"


    แม่เลี้ยงเดี่ยวลูกสองที่กำลังล้างจานอยู่ในครัวส่งเสียงหัวเราะลั่นกับคำพูดของลูกชายคนโต

    ซึงฮยอนไปเรียนเมืองนอกนานกว่าสองปี เขาคงยังติดภาพเด็กพุงป่องวันๆเอาแต่เล่นเกมส์ของเจ้ามินฮวาน


    "ไปหาน้องหน่อยไป
    แล้วจะตกใจที่ลูกหมูของพวกเราหล่อขึ้นเป็นกอง"




    ซึงฮยอนที่เพิ่งเรียนจบและกลับมาเกาหลีใต้บ้านเกิดเป็นวันแรกกำลังสตาร์ทรถเพื่อออกไปรับน้องชายต่างพ่อที่อายุห่างกันเกือบเจ็ดปี

    ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นนักเรียนทุนของรัฐบาล แต่เพราะทางบ้านไม่ได้มีฐานะร่ำรวยอะไร ตลอดเวลาที่อยู่ต่างแดนนักศึกษาป.โทคนนี้ต้องประหยัดค่าใช้จ่ายให้มากที่สุด การติดต่อกลับมาที่นี่จึงทำได้ไม่บ่อยนัก

    เขาแทบจะไม่ได้พูดคุยถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกับมินฮวานเลย


    "หล่อขึ้นเป็นกองเหรอ อืม
    ชักอยากเห็นแล้วสิ"


    ละแวกบ้านแถบนี้ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนไปมาก สนามฟุตซอลหนึ่งเดียวของชุมชนยังคงเป็นที่นิยมของเด็กไฮสคูลในเวลาหลังเลิกเรียน ซึงฮยอนเองก็เคยมาเตะบอลที่นี่อยู่หลายครั้ง

    รถของเขาเลี้ยวเข้ามาจอดในซองที่หันหน้าเข้าหาสนามพอดี ผู้เป็นพี่เพ่งสายตาสอดส่องหาน้องรักของตัวเอง


ตู๊ด... ตู๊ด...


    [ฮัลโหล แม่มาถึงแล้วเหรอฮะ]
    "ไม่ใช่แม่ นี่พี่เอง"
    [ห้ะ ซึงฮยอนเหรอ!]
    "ใช่ คิดถึงกันมั้ย"
    [พี่ครับ รอแปบนึง เดี๋ยวผมจะรีบไป]


    อีกคนกดวางสาย น้ำเสียงตื่นเต้นของมินฮวานเมื่อกี๊พลอยทำให้ซึงฮยอนรู้สึกตื่นเต้นตามไปด้วย ร่างสูงออกมายืนรอข้างนอกรถ ไม่นานนักเขาก็เห็นเงาตะคุ่มของเด็กผู้ชายตัวผอมคนหนึ่งโผล่มาไกลๆ


    "มินฮวาน ทางนี้" ซึงฮยอนป้องปากเรียกพร้อมโบกมือ
    "พี่ซึงฮยอน!" มินฮวานวิ่งลุกลี้ลุกลน พอมาถึงตัวเขาก็รีบโผเข้ากอดพี่ชาย
    "ใจเย็นๆ เดี๋ยวก็สะดุดล้มหัวร้างข้างแตกกันพอดี" ซึงฮยอนกอดน้องตอบ กลิ่นเหงื่อกับผิวเหนอะหนะของเด็กหนุ่มทำให้เขารู้สึกไม่ชอบนิดหน่อย
    "ฮ่าๆ พี่นี่ก็ยังเหมือนเดิม" มินฮวานถอยตัวออกมา
    "อะไร"
    "ขี้กังวลอย่างกับเป็นแม่"


    และช่วงนี้แหละที่ซึงฮยอนจะได้สังเกตพัฒนาการทางรูปร่างหน้าตาของน้องชาย เบบี้แฟตที่เคยอยู่กับเขามานานนมบัดนี้ไม่มีเหลือ แขนขาเก้งก้าง แก้มตอบ ผมดำยาวเปียกเหงื่อลงมาปรกหน้าผากอย่างไม่เป็นระเบียบ

    ...

    หล่อขึ้นอย่างที่แม่ว่าจริงๆด้วย


    "เตี้ยเท่าเดิมเลยหนิเรา"


    มินฮวานทำหน้ามุ่ย ซึงฮยอนคงไม่รู้ว่าเหตุผลที่เขาหันมาเล่นกีฬาก็เพราะว่าอยากเพิ่มส่วนสูงให้ตัวเอง แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล


    "แต่ก็ หล่อขึ้นมากเลยนะ" ประโยคนี้ทำอีกคนเปลี่ยนจากหน้ามุ่ยเป็นหน้าแดง
    "ซึงฮยอน..."


    เขาแอบเห็นแววตาเศร้าแปลกๆจากมินฮวาน


    "นี่ ไปอาบน้ำล้างตัวก่อนไป เหม็นเหงื่อจังเลย" นิ้วยาวยื่นไปเขี่ยปอยผมที่ห้อยตกลงมาบังตาตี่ๆนั่นให้
    "แต่ ผมไม่ได้เอาผ้ามาเปลี่ยน ปกติกลับไปอาบบ้านตลอด--"
    "เอามาให้แล้วเจ้าบ๊อง" ซึงฮยอนหันกลับไปเปิดประตูรถแล้วหยิบถุงผ้าร่มใบใหญ่ออกมา
    "เอ่อ..." มินฮวานมองหน้าพี่ชายด้วยสายตาที่...ไม่ค่อยไว้ใจ
    "ไม่รู้เหรอว่าแม่เขาต้องทนนั่งดมกลิ่นตัวนายอยู่ทุกวันๆอะ พี่ไม่ใช่แม่นะ พี่ทนไม่ได้หรอก"
    "อ่า โอเคๆ"


    เด็กหนุ่มคว้าถุงจากพี่ชายแล้วรีบสาวเท้าออกไป


    "อ้อ! เอามือถือเข้าไปด้วยล่ะ เผื่อมีอะไรจะได้โทรหาพี่ได้" ซึงฮยอนตะโกนไล่หลัง


    มินฮวานชูโทรศัพท์มือถือของตัวเองขึ้นเหนือหัวเป็นเชิงบอกว่าเอามาแล้ว


    "ทีนี้ก็เหลือแค่รอ" ชายหนุ่มยิ้ม มองตามร่างผอมๆของน้องชายไปจนเขาเลี้ยวเข้าอีกทาง ประตูรถถูกเปิดอีกรอบ ซึงฮยอนเอื้อมมือไปคว้าผ้าขนหนูผืนโตที่วางโดดๆอยู่บนเบาะรถ


    จากนั้นก็เดินตามมินฮวานไป...


ตืด... ตืด...


    "ว่าไง"
    [ซึงฮยอน พี่ลืมเอาผ้าเช็ดตัวใส่มาในถุง!!!]
    "เออเฮ้ย! จริงด้วย แต่มันอยู่บนรถ พี่ลืมไปเลย พอดีผืนมันใหญ่ไปใส่ไม่พอ" เบื้องหลังน้ำเสียงตกใจของซึงฮยอน ใบหน้าของคนเจ้าเล่ห์กำลังยิ้มอย่างมีความสุข
    [ฮื่อ รีบเอามาให้เดี๋ยวนี้เลย เดี๋ยวนี้]


    เสียงพูดที่ดังก้องผิดปกติทำให้ซึงฮยอนรู้เลยว่าอีกคนอยู่ในห้องอาบน้ำแล้ว ส่วนตัวเองก็ยืนถือผ้าเช็ดตัวอยู่ด้านหน้าทางเข้า ใช้เวลาเพียงไม่นาน เขาก็เดินไปถึงโซนที่มินฮวานอยู่

    ประตูห้องอาบน้ำทุกบานเปิดอ้าซ่า จะมีเพียงแต่ห้องในสุดด้านขวามือเท่านั้นที่ปิดล็อคและมีเสียงน้ำจากฝักบัวดังออกมา

    คงไม่ใช่ใครที่ไหน น้องชายของเขานั่นเอง


    "มินฮวาน อยู่ห้องไหนน่ะ"


    เขาตะโกนถามไปงั้นแหละ


    "ในสุด นี่ เห็นเท้าผมมั้ย" มินฮวานยื่นเท้าข้างหนึ่งโผล่พ้นใต้ประตูออกมา
    "โอเค อยู่หน้าห้องแล้ว เปิดประตูสิ"
    "ห้ะ"
    "เปิดประตู"
    "โยนขึ้นมาด้านบนก็ได้ เนี่ย ผมรอรับอยู่"
    "ไม่ มินฮวาน เปิดประตู ไม่งั้นก็ไม่ต้องเอา"


    สิ้นเสียงบ่นออดแอดของเด็กข้างในห้อง เสียงกลอนที่ถูกสับก็ดังขึ้นมาแทน ร่างของมินฮวานซ่อนอยู่หลังประตูนั่น


    "เอามาสิครับ"


    มือหนาดันให้ช่องว่างตรงนั้นขยายกว้างออกแล้วรีบแทรกตัวเข้าไปด้านใน ซึงฮยอนตอนนี้อยู่ในสภาพท่อนบนเปลือยเปล่า ท่อนล่างมีผ้าขนหนูที่เป็นต้นเหตุของปัญหาห่ออยู่ ส่วนตรงไหล่ก็มีเสื้อผ้าที่ตัวเองใส่ตอนแรก


    "เฮ้ย พี่ครับ!!!" มินฮวานที่ยังอาบน้ำไม่เสร็จรีบหยิบกระชากกางเกงบอลบนราวตากมาปกปิดร่างกายของตนเอง แต่ก็ไม่ทันมือของซึงฮยอนที่เร็วกว่า
    "จะอายทำไมมินฮวาน เราพี่น้องกันไม่ใช่เหรอ"
    "ไหนผ้าเช็ดตัวผมล่ะ"
    "ก็นี่ไง" ซึงฮยอนก้มลงมองต่ำ แต่ก่อนจะเงยหน้ากลับมาก็ไม่วายจ้องไปยังส่วนนั้นของมินฮวานที่ล่อนจ้อนอยู่
    "ไอ้พี่บ้--"


    ผู้เป็นพี่ไม่ยอมให้น้องโวยวายต่อ ริมฝีปากของซึงฮยอนรุดเข้าประกบปากของอีกคนอย่างรวดเร็ว

    เขาไม่ได้รับการขัดขืน
    เท่านั้นไม่พอ มินฮวานยังจูบเขาตอบอีกด้วย


    'รู้เลยนะว่าก็กำลังอยากเหมือนกัน'


    "คิดถึงพี่ใช่มั้ยล่ะ"
    "อือ" เด็กหนุ่มตอบสั้นๆง่ายๆได้ใจความ แต่ในจังหวะที่ซึงฮยอนยังเหม่อมองมาที่ใบหน้าหวาน มือเล็กก็จัดการแกะผ้าที่ห่อกายเขาอยู่ออก
    "เห้ย ใจเย็--"


    ร่างผอมกระโดดกอดคนตรงหน้า เขารีบใช้แขนคว้ารับบั้นท้ายของน้องไว้ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ขาเรียวตวัดโอบสะโพกหนา น้ำหนักตัวที่ไม่ได้น้อยของมินฮวานเล่นเอาซึงฮยอนเซถอยหลังกระแทกประตูเสียงดังก้องไปทั่ว


    "ทำไมไปนานขนาดนี้ ซึงฮยอน..." ร่างเล็กกอดคนที่อุ้มเขาไว้อยู่แน่น "โคตรคิดถึงเลยรู้มั้ย คิดถึงแบบ ทรมานอะ"
    "รู้สิ ก็ทรมานพอกันแหละ"


    น้องชายยื่นหน้าเข้ามาจูบพี่ชายอีกครั้ง


    จูบรสชาติที่คุ้นเคย

    จูบที่พวกเขาโหยหามานานถึงสองปี...




    ความสัมพันธ์ที่ดูแปลกประหลาดของทั้งคู่ก่อกำเนิดขึ้นเมื่อสี่ปีที่แล้ว

    อะไรบางอย่างดลใจให้พวกเขามีอะไรกันในโรงรถที่บ้าน
    แล้วมินฮวานก็ได้รู้ ว่าเขาหลงรักพี่ชายของตนเอง

    ซึ่งความรู้สึกแบบนั้นมันก็เกิดกับซึงฮยอนเช่นกัน




    "พี่ครับ..."
    "ว่าไงครับ"


    เสียงของสองพี่น้องเริ่มแหบพร่า


    "ผม ต้องการพี่"


    ซึงฮยอนรู้สึกถึงบางสิ่งตรงหน้าท้อง
    มันเริ่มขยายตัวและแน่นตึงขึ้น


    "พูดอีกทีซิ พี่ได้ยินไม่ชัดเลยอะ" รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏบนหน้า แต่มินฮวานดูจะไม่อยากเล่นกับเขาด้วย
    "ฮือ ผมต้องการพี่ครับ" ร่างเล็กพยายามดิ้นเพื่อให้อีกคนทิ้งตัวเขาลง แต่ซึงฮยอนไม่ปฏิบัติตามที่เขาร้องขอ


    คนแก่กว่าอุ้มพาร่างของน้องชายต่างพ่อไปใต้ฝักบัวขนาดใหญ่ที่ยังเปิดน้ำทิ้งไว้อยู่ เขาบิดหมุนตัวก๊อกเพิ่มแรงดันให้เสียงของสายน้ำที่ตกกระทบพื้นดังกลบเสียงบางอย่างที่กำลังจะมีขึ้นในไม่ช้า

    มินฮวานถูกปล่อยตัวลงแล้วจับให้หันหน้าเข้ากำแพง ซึงฮยอนพรมจูบท้ายทอยและบ่าของเขาจากด้านหลัง มือหนาลูบไล้ไปมาทั่วเรือนร่างปลุกสร้างความต้องการให้เพิ่มขึ้นๆทุกวินาที

    กลิ่นเหงื่อที่หายไปมีกลิ่นของสบู่เหลวจากบ้านเข้ามาแทนที่...
    สบู่ที่มินฮวานชอบใช้ และยังคงใช้มันมาตลอดตั้งแต่ก่อนซึงฮยอนจะไปเรียนต่อ


    "คิดถึงกลิ่นนี้จัง"
    "คิดถึงก็ดมนานๆสิครับ" คนตัวเล็กเอียงคอรับการประทับตราสวาทจากผู้เป็นพี่ชาย
    "ไม่ได้หรอก พี่ต้องทำอย่างอื่นต่อ"


    ลิ้นร้อนลากไล่ตามแผ่นหลังขาวเนียนลงไปยังด้านล่างจนถึงรอยแยกขนาดใหญ่กลางลำตัว สองมือเคล้นคลึงก้อนเนื้อตรงหน้าอย่างเมามัน มินฮวานรู้สึกเสียวท้องวูบวาบ ขาของเขาอ่อนแรงพร้อมจะทรุดฮวบได้ทุกขณะ


    "เด็กดีของพี่ ทนไม่ไหวก็เอามือยันผนังไว้สิ"


    น้องชายทำตามคำแนะนำของเขาทันที แต่ความทรมานกลับยิ่งเพิ่มขึ้นอีกเมื่อบั้นท้ายสองข้างของเขาถูกจับแยกออกพร้อมด้วยลิ้นของซึงฮยอนที่ล่วงเข้ามาเลียปากทางลับตรงนั้น


    "อ๊ะ อ...อ๊า!" ร่างกายของมินฮวานตอบสนองต่อความเสียวซ่านด้วยการขมิบอย่างรวดเร็ว เขาเด้งตัวไปข้างหน้าเพื่อหนีการกระทำของอีกคน


    'ถ้าน้องเด้งหนี
    พี่ก็ต้องทำให้น้องเด้งกลับเข้ามาสิ'


    ซึงฮยอนโอบสะโพกเล็กไว้แน่น มือข้างหนึ่งเกาะต้นขาที่กำลังสั่นนั้นไว้ แต่มืออีกข้างอ้อมไปจับความเป็นชายของน้องต่างพ่อแล้วแอบชักลงเร็วๆหนึ่งครั้ง


    "อ้ะ ซ...ซึงฮยอน พี่ทำบ้าไรเนี่ย" มินฮวานเริ่มหอบเบาๆ


    แต่อย่างน้อย เมื่อร่างกายด้านหน้าถูกกระตุ้น ร่างเล็กก็ตอบรับด้วยการก้มตัวเขยิบกลับมายังตำแหน่งเดิมในตอนแรก ฟันคมกัดงับไปที่แก้มก้นตรงหน้าเขาอย่างมันเขี้ยว

    สุดท้ายแล้วมินฮวานก็ต้องยอมให้ซึงฮยอนใช้ลิ้นเล่นกับรูรักของเขาไปอย่างจำใจเพราะเด็กหนุ่มต้องกลับมาโฟกัสยังส่วนอ่อนไหวของตัวเองที่กำลังถูกชักรูดขึ้นลงอย่างไม่เป็นจังหวะ

    ...เดี๋ยวช้า

    ...เดี๋ยวเร็ว


    'ซึงฮยอน ทำไมพี่ต้องทรมานผมแบบนี้ด้วย'


    "อ...อะ พี่ฮะ อ...อย่าหยุด"


    พี่ชายขี้แกล้งยังคงแหย่น้องแม้แต่ในเวลาแบบนี้ มินฮวานรู้สึกชาและเกร็งไปทั้งตัวเมื่อจู่ๆซึงฮยอนก็หยุดชะงักข้อมือของตัวเองค้างไว้ แกนกายของเขายังถูกกุมจับไว้อย่างหลวมๆ


    "นี่ วัยรุ่นใจร้อน รอไปพร้อมๆกันไม่ได้เหรอ"
    "ฮือ ผ...ผมค้าง เร็วๆสิค---"


    คนใจร้ายยัดสามนิ้วของตัวเองเข้าไปในโพรงปากที่เต็มไปด้วยน้ำลาย มินฮวานทราบหน้าที่ในช่วงนี้ดีจึงรีบดูดเลียสร้างความเปียกและลื่นให้อวัยวะที่กำลังจะเป็นตัวช่วยสำคัญในการขับเคลื่อนพลังรัก

    เมื่อได้ที่แล้ว ซึงฮยอนค่อยๆถอนนิ้วออกจากปากน้อง น้ำสีใสไหลยืดออกไปตามปลายเล็บเป็นภาพที่มินฮวานเห็นแล้วก็รับรู้ถึงอนาคตในอีกไม่กี่วินาทีข้างหน้า...

    นิ้วกลางถูกใส่เข้าไปก่อน
    ดึงเข้าดึงออกอยู่ทีสองทีก็ตามด้วยนิ้วนาง และนิ้วชี้

    แล้วก็อย่างสุดท้าย...


    "อ้ะ!"
    "ยังรอพี่อยู่รึเปล่าอะครับ"


    คนที่ยืนหอบอยู่ข้างหน้าเขากำลังอึดอัดไปทั้งร่ายกายส่วนล่าง ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้าที่รอการปลดปล่อย หรือด้านหลังที่ตอนนี้ถูกของชิ้นใหญ่รุกทะลวงเข้ามา


    "มินัน..." ซึงฮยอนยื่นหน้าเข้ามากระซิบข้างหู ส่วนสะโพกข้างล่างก็เริ่มการขยับเคลื่อนไหว


    มินฮวานพยายามที่จะไม่ส่งเสียงเพราะเขาไม่แน่ใจว่าด้านนอกนั่นมีคนอยู่รึเปล่า น้ำเย็นจากฝักบัวบวกกับอากาศที่ค่อยๆหนาวทำให้ร่างเล็กสั่นสะท้านไปทั้งตัว


    "อ...อะ" พี่ชายกระทุ้งกระแทกรุนแรงยิ่งขึ้นแต่มือที่อยู่ตรงนั้นก็ยังจับมันไว้เฉยๆเช่นเดิม
    "ขอร้องพี่สิ
    อ้อนวอนพี่"


    เขารูดมือออกหนึ่งครั้งแล้วใช้นิ้วหัวแม่มือกดเน้นส่วนหัวที่มีของเหลวซึมออกมาบ้างแล้ว


    "อื... พี่ฮะ"
    "บอกรักพี่ หน่อยสิครับ" ซึงฮยอนรูดมือกลับมายังส่วนโคนอีกครั้ง
    "ผมรัก อึก พ...ซึงฮยอน อ๊ะ"
    "ขอบคุณนะ"


    สิ้นเสียงกระซิบแหบแห้ง จังหวะการขยับเขยื้อนทั้งหน้าและหลังของมินฮวานก็ทวีความหนักหน่วงไร้ความอ่อนโยนต่างกับช่วงแรกๆราวฟ้ากับเหว ร่างเล็กเขย่าตามแรงที่พี่ชายเขาส่งมา เสียงครางกระเส่าหลุดพ้นออกมาจากทั้งคู่อย่างห้ามรั้งไว้ไม่ได้

    ฝักบัวก็ฝักบัวเถอะ ตอนนี้ทั้งซึงฮยอนและมินฮวานไม่สนใจแล้วว่าใครจะมาได้ยินหรือรับรู้ว่าพี่น้องสองคนนี้กำลังมีเซ็กส์ในห้องอาบน้ำของสนามฟุตซอล ... ความอัดอั้นตลอดหกร้อยกว่าวันใกล้จะถูกปลดเปลื้องโดยความรักและความคิดถึงที่พวกเขามีให้กัน


    "พี่ ผมไม่ไหวแล้ว!"
    "ปล่อยออกมาสิ มินัน พี่รักนาย พี่รักนายนะ"

    
    น้ำสีขาวข้นคลั่กพุ่งออกมาเป็นสาย มือของซึงฮยอนบีบคลึงแหล่งที่มาของสิ่งนั้นราวกับจะเค้นมันออกให้หมดเกลี้ยง การเคลื่อนไหว ณ ช่องทางด้านหลังยังเป็นไปเรื่อยๆ มินฮวานแอบรู้สึกผิดที่เขาเสร็จก่อนจึงช่วยส่งเสียงหวานเร่งเร้าให้พี่ชายได้ไปถึงจุดสุดยอด

    สิ้นสุดแรงกระแทกครั้งสุดท้าย ร่างกายของซึงฮยอนก็หลั่งของเหลวชนิดเดียวกันเข้าไปในตัวของผู้เป็นน้อง ปริมาณน้ำรักของทั้งคู่ในครั้งนี้มีมากกว่าครั้งไหนๆที่เคยทำด้วยกันมา คงเป็นเพราะช่วงเวลาที่ทิ้งห่างนานแสนนาน... ผลพวงที่เกิดขึ้นจึงแปรผันตรงกับความปรารถนาที่ถูกสะสมอยู่


    "มินฮวาน เป็นยังไงบ้าง" ซึงฮยอนเอื้อมมือไปเช็ดหยาดน้ำตาบนแก้มของอีกคน


    เมื่อช่วงเวลาแห่งความสุขหมดไป ความเจ็บปวดก็เข้ามาแทนที่

    พี่ชายก้มลงตรวจดูอาการให้น้อง นอกจากผลงานของเขาที่ไหลล้นออกมายังมีคราบเลือดเกาะติดที่ผนังปากทาง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ไม่ได้ดูสาหัสมาก


    "ไม่เป็นไรนะคนเก่ง เดี๋ยวพี่ล้างออกให้นะครับ"


    ซึงฮยอนจัดแจงทำความสะอาดร่างกายให้มินฮวาน พวกเขาถือโอกาสอาบน้ำชำระล้างตัวกันอีกรอบก่อนกลับบ้าน โชคดีแค่ไหนที่เหล่าวัยรุ่นที่มาเตะบอลยังคงเล่นกันอยู่ในสนามและไม่ได้มีใครเข้ามาอาบน้ำเปลี่ยนผ้าเลย

    สองพี่น้องเดินจูงมือกันออกมา หัวเราะหยอกล้อกันอย่างสบายอกสบายใจ


    "ทำไมเราต้องมาทำอะไรแบบนี้ที่นี่ด้วยครับเนี่ย"
    "ถ้าไม่ทำที่นี่แล้วจะให้ทำที่ไหนล่ะ"
    "ก็ที่บ้าน--"
    "ที่บ้านเดี๋ยวแม่รู้... แล้วยิ่งถ้านายเสียงดังแบบเมื่อกี๊นะ อย่าว่าแต่แม่เลย ลุงบ้านข้างๆที่หูตึงก็ได้ยิน"
    "อย่ามาเวอร์น่ะพี่" มินฮวานเขินจนหน้าแดงทั้งๆที่ตอนอยู่ในห้องอาบน้ำก็ไม่เห็นจะเขิน




    รถยนต์คันเดิมเลี้ยวเข้ามาจอดข้างในรั้วบ้าน ซึงฮยอนเตี๊ยมคำพูดที่จะบอกแม่ว่าทำไมถึงกลับช้ากับมินฮวานก่อนพากันเข้าบ้านด้วยท่าทางปกติที่สุด


    "ทำไมบ้านมืดจัง แม่นอนแล้วเหรอ..." ซึงฮยอนเดินงมหาสวิตช์ไฟในความมืด ไปอยู่นู่นนานสองปีทำเอาเขาลืมหมดว่าอะไรอยู่ตรงไหน
    "ซึงฮยอน" มินฮวานกระซิบเรียกพี่เบาๆเหมือนกลัวจะมีคนได้ยิน
    "ฮึ--" ยังไม่ทันสิ้นเสียงตอบรับ น้องชายตัวเล็กของซึงฮยอนก็เขย่งตัวขึ้นมาจูบเขา...ในความมืด และรีบละปากออกอย่างรวดเร็ว


    "เซอร์ไพรส์!!!"


    ห้องรับแขกสว่างไสวขึ้นพร้อมๆกับเสียงตะโกนของแม่ สิ่งแรกที่ซึงฮยอนเห็นหลังไฟมาคือป้ายภาษาอังกฤษขนาดใหญ่เขียนด้วยลายมือว่า


WELCOME HOME !!! ~
MY SON (& MY LOVELY BROTHER)


    "พวกเรายินดีต้อนรับลูกกลับบ้านอย่างเป็นทางการนะจ๊ะ" เจ้าของประโยครีบวิ่งออกมาจากจุดที่เธอซ่อนตัวอยู่
    "โอ้โห แม่ฮะ... เตี๊ยมกันนานมั้ยเนี่ย" ลูกชายคนโตของบ้านยังคงทึ่งกับแผนเซอร์ไพรส์ที่แม่และน้องทำให้เขา ทั้งป้ายเอย สายรุ้งเอย แล้วก็คุกกี้จานเบ้อเริ่มบนโต๊ะกาแฟนั่นอีก
    "ก็ นานอยู่นะ ต้องขอบคุณมินฮวานคนเก่งที่ช่วยถ่วงเวลาไว้ให้แม่ตกแต่งห้องนี่ทัน" หญิงสาวคนเดียวของบ้านยีหัวลูกชายคนเล็กอย่างเอ็นดู
    "ถ่วงเวลางั้นเหรอฮะ" ซึงฮยอนหันไปหามินฮวานแล้วยิ้มให้...ในความหมายที่เขาทั้งคู่รู้กัน




    "นี่นายมีอะไรกับพี่ เพื่อถ่วงเวลาเหรอ มินฮวาน"


    กว่าสามแม่ลูกจะพูดคุยอะไรด้วยกันเสร็จเวลาก็ล่วงเลยไปเกือบถึงเที่ยงคืน ซึงฮยอนรีบวิ่งตามน้องชายของเขาขึ้นมาที่ชั้นสองของบ้านหลังจากที่แม่ไล่มินฮวานให้ขึ้นนอนไปก่อน


    "ไม่ใช่พี่คนเดียวที่มีแผนหรอกนะครับ" เด็กหนุ่มตอบยิ้มๆ
    "นายกำลังพูดถึงอะไร"
    "ซึงฮยอน พี่มันคนเจ้าเล่ห์ แต่ผมฉลาดกว่าพี่"
    "..."
    "คิดว่าผมไม่รู้เหรอ ว่าในถุงนั่นไม่มีผ้าเช็ดตัวน่ะ"






-  จบ  -

August 10, 2017

[FANFIC/Chapter 07: ว่าแต่พี่ให้ผมมาเอาอะไร] FTISLAND&N.Flying 'Cloudy' (SEUNGJAEhyun)

CHAPTER 7     ว่าแต่พี่ให้ผมมาเอาอะไร










     ประตูบ้านบานที่แขกคุ้นเคยดีเปิดออก เด็กหนุ่มร่างสูงในเครื่องแบบนักเรียนกวาดตามองไปรอบๆ แต่ยังไม่เห็นตัวเจ้าของบ้านที่เป็นคนส่งข้อความให้เขามาหา



     “พี่ครับ ผมเข้ามาแล้วนะ
     พี่แจจิน...”



     ‘ไม่อยู่แล้วทำไมไม่ล็อคประตูล่ะเนี่ย’ เด็กหนุ่มแอบหงุดหงิดในความสะเพร่าของแฟน ถ้ามีคนคิดไม่ดีจะเข้ามานี่ก็ทำได้ง่ายๆเลยนะ



     “พี่แจจินครั--”



     ร่างหนึ่งกำลังเดินลงบันไดมา กายท่อนบนของเขาเปลือยเปล่า
     ซึงฮยอนเห็นแล้วถึงกับตะลึง…


     ในตอนแรก ความคิดที่ว่าแจจินไม่ได้ใส่อะไรอยู่เลยมันแล่นเข้ามาในหัว แต่เขาก็ต้องหยุดภาพจินตนาการเอาไว้แค่นั้นเพราะบนเรือนร่างของคนรักยังมีผ้าเช็ดตัวหนึ่งผืนห่อหุ้มอยู่ เพียงแต่ราวบันไดมันบังไว้


     อย่างไรก็ตาม แจจินไม่เคยอยู่ในสภาพแบบนี้ต่อหน้าเขา



     “เพิ่งอาบน้ำเสร็จเหรอ”



     สายตาที่คนตรงนั้นมองมาทางซึงฮยอนมันดูแปลกไปจากเดิมมาก
     แปลกไปในทางที่... ไม่รู้สิ เขาอาจจะคิดไปเอง




     “อ่าฮะ” กว่าจะตอบคำถามนี้แจจินก็มาหยุดยืนอยู่ด้านหน้า ห่างจากซึงฮยอนไปแค่เมตรเดียว



     นอกจากผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ ในมือของเขายังมีผ้าขนหนูอีกหนึ่งผืน ร่างเล็กยกมันขึ้นมาเช็ดเส้นผมที่ดูเหมือนว่าหลังจากสระเสร็จก็ยังไม่ได้ทำอะไรกับมันเลย หยดน้ำส่วนเกินจำนวนไม่น้อยกระเด็นมาโดนใบหน้าของอีกคน



     “เลิกเรียนแล้วก็ตรงมานี่เลยเหรอ”
     “ใช่ครับ”
     “ดูสิ เหงื่อซกเลย” แจจินก้าวเข้ามาใกล้อีก ผ้าผืนที่ก่อนหน้านี้อยู่บนศีรษะของเขาถูกเอามาซับเหงื่อบนหน้าผากและต้นคอของรุ่นน้อง



     ซึงฮยอนกระอักกระอวนนิดหน่อย ครั้งล่าสุดที่อยู่ด้วยกันคือวันที่เขาไม่อยากจดจำมากที่สุด แต่ตอนนี้แจจินปฏิบัติตัวกับเขาเหมือนลืมเรื่องที่เกิดขึ้นไปหมดแล้ว



     “ซึงฮยอน เรื่องวันนั้น นายยกโทษให้พี่แล้วจริงๆใช่มั้ย” แจจินเปลี่ยนสรรพนามกลับไปเรียกแทนตัวเองว่า พี่ เหมือนตอนแรกๆที่เพิ่งรู้จักกัน
     “แน่นอนสิครับ ที่จริงแล้วมันเป็นความผิดของ...”



     แจจินน้ำตาคลอเบ้า




     “...ผมต่างหาก” แล้วซึงฮยอนก็รู้เลยว่า แจจินยังจำมันได้อยู่...ทั้งหมด



     คนเปิดประเด็นเบนหน้าหนีไปทางอื่น พยายามเก็บกลืนน้ำตาเข้าไปไว้ข้างในเหมือนเดิม



     “ลืมมันเถอะนะครับ ผมจะไม่ทำอะไรแบบนั้นกับพี่อีกแล้วนะ ผมสัญญา”
     “อะไรกัน” แจจินหันขวับ ทำหน้าประหลาดใจ “แล้ววันนี้นายจะมาบ้านพี่ทำไมล่ะ”
     “เอ้า ก็พี่เรียกให้ผมมาเอาของหนิ” ซึงฮยอนทำหน้างงยิ่งกว่า “ว่าแต่ พี่ให้ผมมาเอาอะไรล่ะครับ”



     เจ้าของบ้านทำท่าเหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ รอยยิ้มแฝงเลศนัยปรากฏขึ้นบนใบหน้าหวาน แจจินชะโงกหน้าเข้ามากระซิบที่ข้างหูของซึงฮยอน



     ก็ เอา...กับพี่ไง



     จบประโยคยั่วของแจจินเด็กหนุ่มก็ต้องตกใจเมื่อผ้าเช็ดตัวที่ห่อร่างกายท่อนล่างนั้นอยู่ถูกสลัดทิ้งลงสู่พื้น บนตัวของแจจินไม่เหลือเครื่องนุ่งห่มใดๆอีกแล้ว มือเล็กตวัดผ้าขนหนูผืนน้อยเกี่ยวรอบคอของคนตัวสูงและดึงให้ศีรษะของซึงฮยอนโน้มก้มลงมา ปากกระจับที่อ้ารอไว้อยู่แล้วรีบเข้างับอะไรก็ตามที่พุ่งมาชนโดยไม่สนว่าอีกฝ่ายจะต้องการแบบนั้นหรือไม่


     โชคดีที่อวัยวะนั้นก็คือปากเช่นกัน ซึงฮยอนไม่อยากให้แจจินได้ซีนรุกไปคนเดียว ทั้งๆที่ตรงคอยังมีแรงบังคับจากผ้าผืนนั้นอยู่ ปากหนาเร่งบดขยี้ ล้วงลิ้น ลากถู แจจินปล่อยให้ซึงฮยอนทำทุกอย่างตามอำเภอใจ ตอนนี้เขาต้องการที่ยึด สองขาเร่งถอยหลังหาเครื่องเรือนสักอย่างที่แข็งแรงพอให้ร่างของทั้งคู่ยันไว้ได้


     แต่สมาธิที่อยู่ไม่สุขทำให้เท้าเล็กลืมระวังกองผ้าเช็ดตัวบนพื้น แจจินล้มหงายหลังก้นกระแทก มือที่ยังจับผ้าขนหนูแน่นก็พลอยดึงคนที่ตนกำลังนัวเนียอยู่ร่วงลงไปด้วย


     ทั้งสองลงมากองอยู่กับพื้นเหมือนกับผ้าเช็ดตัวผืนนั้น แต่อย่างน้อยแจจินก็ได้ที่ยึดสมใจ มันคือโต๊ะกาแฟตัวเล็กกลางห้องรับแขก เขารู้สึกปวดระบมที่ก้นกบแต่ก็ไม่ใช่เวลาจะมานั่งบ่น ขาสองข้างแยกกว้างเต็มที่อย่างไม่เหลือความกระดากอาย เชื้อเชิญให้คนข้างหน้าได้เคลื่อนกายเข้าแนบเนื้อหนังทุกส่วนของตัวเอง


     ซึงฮยอนในตอนนี้ถูกกามอารมณ์ครอบงำสติไปเกือบจะสมบูรณ์แล้ว เหลือเพียงแต่เครื่องแบบนักเรียนของเขาที่ยังถูกสวมอยู่อย่างครบชุด



     “ซึงฮยอน... ถอดกางเกง” แจจินตวัดขาโอบสะโพกหนาให้อีกคนไม่สามารถขยับตัวถอยออกไปได้ ถ้าซึงฮยอนต้องถอดกางเกงก็ต้องถอดในสภาพนั้น




     การแกะเข็มขัดนักเรียนเสร็จสิ้นไปด้วยความยากลำบากเพราะมันแนบชิดติดกับท้องน้อยของคนที่ใช้ท่อนขากอดเขาไว้ เด็กหนุ่มจะดันตัวเองออกแต่แจจินก็ยิ่งเพิ่มแรงรัดให้แน่นเข้าไปอีก ในท่าทางเหมือนกำลังตำหนิที่เขามัวแต่ชักช้ามีแววตาหัวเราะเยาะส่งมาให้ด้วย


     เอาไงเอากัน หลังจากถอดเข็มขัดได้แล้ว มือหนาพยายามล้วงลงไปปลดกระดุมและรูดซิปกางเกงของตัวเองออก ขอบคุณพระเจ้าที่แจจินกระเถิบตัวเล็กน้อยมอบพื้นที่ว่างให้เขา แต่ ก็ไม่ได้กว้างไปกว่าฝ่ามือของผู้ชายอายุสิบแปดเท่าไหร่


     สุดท้ายแล้ว หลังมือของซึงฮยอนก็ต้องสัมผัสโดนบางสิ่งที่บ่งบอกถึงการเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ของอีกคนอย่างจำใจ



     เรียวขายาวทางด้านซ้ายของซึงฮยอนขยับออกมาอยู่ด้านหน้าเขา นิ้วเท้าเล็กเกี่ยวเข้ากับขอบผ้าเสิร์ทสีดำแล้วช่วยถอดดึงมันลงมา ร่างหนาขยับลุกขึ้นนิดนึง ระหว่างนั้นก็ปลดกระดุมเสื้อตัวเอง



     “แค่ปลดก็พอไม่ต้องถอด... พี่ขอ”



     สองฝั่งผ้าค่อยๆแยกออกจากกันตามจำนวนกระดุมที่ถูกแกะ ผิวขาวที่แทบจะไม่เคยถูกแดดบัดนี้เผยให้เห็นอยู่ตรงหน้า แจจินเกิดความรู้สึกที่ยากจะอธิบายเมื่อสายตาของเขาเลื่อนไปเห็นลอนกล้ามน้อยๆที่หน้าท้องนั่น บนร่างของซึงฮยอนตอนนี้ไม่มีอะไรที่ถูกถอดออกโดยสมบูรณ์สักอย่าง เข็มขัดและกางเกงนักเรียนยังคาอยู่ที่หัวเข่า แม้แต่ถุงเท้าเขาก็ยังใส่อยู่ ผิดกับอีกคนที่ไม่มีอะไรคลุมตัวไว้เลยแม้แต่ชิ้นเดียว


     แจจินขยับตัวคล้ายจะลุกขึ้นแล้วดันซึงฮยอนให้ถอยไปจนชิดชั้นวางทีวีด้านหลัง
     เขาต้องการจะเป็นฝ่ายที่อยู่ข้างบน



     ร่างบางกำลังจะขึ้นคร่อมขาคนตรงหน้า แต่ซึงฮยอนรีบจับไหล่แจจินไว้ก่อน




     “พี่ครับ... บนห้องดีกว่ามั้ย” เพราะว่ามันคือครั้งแรก เขาจึงหวังว่ามันจะออกมาอย่างอ่อนโยนและนุ่มนวล ซึงฮยอนอยากให้แจจินเจ็บน้อยที่สุด



     ฉะนั้น ถ้าพื้นผิวเป็นที่นอนและผ้านวมมันก็น่าจะดีกว่าพื้นไม้แข็งๆตรงนี้


     แจจินทำหน้าตาเหมือนเด็กที่ถูกพ่อแม่ขัดใจ ร่างล่อนจ้อนลุกขึ้นยืน เอื้อมไปหยิบอะไรบางอย่างข้างทีวีแล้วโยนให้ซึงฮยอน



     “ตอนขึ้นไป เหลือไว้แค่เสื้อนักเรียนนะ” ผ้าเช็ดตัวถูกนำมาห่อกายไว้อีกครั้ง คนพูดรีบวิ่งขึ้นบันไดไป ก่อนจะหยุดฝีเท้าลงระหว่างทางและหันหน้ากลับมา “เร็วๆด้วยล่ะ”



     ซึงฮยอนที่ยังนั่งอยู่บนพื้นพยายามบังคับจิตใจตัวเองไม่ให้มองตามร่างของแจจิน อดทนรอที่จะไปชื่นชมมันอย่างเต็มตาในห้องนั้น



     “จริงๆกูก็น่าจะมองสักหน่อยว่ะ” เขาหยิบสิ่งที่แจจินให้ขึ้นมาจากบนตัก ซองฟอยล์สีเงินขนาดเล็กรูปร่างสีเหลี่ยมจัตุรัส






     แจจินสั่งไว้อย่างไรเขาก็ทำตามอย่างนั้น ถ้าไม่รวมของที่เพิ่งได้รับมา ซึงฮยอนที่สวมเพียงแค่เสื้อนักเรียนตัวเดียวกำลังย่องขึ้นบันไดไปยังชั้นบนของบ้าน


     ลมเย็นยามบ่ายแก่จากหน้าต่างที่เปิดอ้าซ่าพัดผ่านออกมาทางประตูห้องที่แง้มไว้อยู่ สิ่งแรกที่ซึงฮยอนเห็นหลังจากเข้าไปในนั้นแล้วคือกลุ่มผ้าม่านสีขาวบางกำลังปลิวล้อกับแรงอากาศที่เคลื่อนตัวอย่างฉวัดเฉวียนเมื่อช่องลมหนึ่งเดียวภายในห้องถูกขยายให้กว้างออก


     เสียงของบางอย่างตกกระแทกลงบนพื้นไม้ลามิเนตสีสว่างเรียกความสนใจของเขาให้กลับมาที่คนในห้อง วัตถุสีน้ำเงินสดทำจากซิลิโคนที่น่าจะมีลักษณะนามว่า แท่ง กลิ้งหลุนๆตามแรงถีบมาจากเตียงนอนใหญ่ด้านขวามือ บุคคลผู้เป็นเจ้าของวัตถุรูปทรงคุ้นตานั้นกำลังนั่งห้อยขาข้างหนึ่งลงมาจากเตียง ตาปรือจ้องมายังใบหน้าของซึงฮยอน


     ช่วงเวลาแห่งการเชยชมเรือนร่างคนรักมาถึงแล้ว ผู้เข้ามาใหม่เดินปรี่ไปถึงตัวเจ้าของห้องอย่างรวดเร็ว กายปวกเปียกถูกช้อนอุ้มขึ้นไปไว้กลางที่นอนสีไข่ไก่ก่อนจะโดนร่างใหญ่ทิ้งตัวลงคร่อม แจจินก่ายขาข้างหนึ่งไว้เหนือบั้นท้ายของซึงฮยอน อีกข้างหนึ่งอยู่ที่หลังต้นขา ปัดป่ายไปมาจนมั่วไปหมด ส่วนบนก็เดินหน้าเล้าโลมกันอย่างหนักหน่วง ทั้งซุกไซ้ บีบรัด กัด และดูด


     คนข้างล่างนั้นช่างอยู่ไม่นิ่งเอาเสียเลย แจจินขยับตัวมากเกินกว่าปกติ สองแขนเกยพาดไปยังทุกที่ที่ความยาวไปถึง มือข้างหนึ่งของเขายกขึ้นมาจับหัวซึงฮยอนกดลงไปชนเนินอกของตัวเองก่อนจะแอ่นตัวรับ ปากหนาขบเลียหนึ่งในจุดศูนย์รวมเส้นประสาทสร้างความเสียวซ่านจนแจจินบิดเร่าและร้องครวญคราง ใบหน้าหล่อเงยขึ้นมองภาพแห่งความประทับใจนั้น แต่เขาก็ต้องตกใจที่



     “แจจิน...” สิ่งที่อยู่ไกลกว่าใบหน้าสวยของแจจินแต่กลับสะดุดสายตาซึงฮยอนคือขวดของเหลวขนาดจิ๋วขวดหนึ่งบนโต๊ะข้างหัวเตียง




Liquid Rx



     ตอนนี้คนรักของเขาอยู่ในสภาพที่ไม่สามารถตอบคำถามอะไรซึงฮยอนได้อีกแล้ว



     “พี่ช... พี่ชอบนายในชุดนักเรียน...มาก
     ชอบมากเลย” สองมือเรียวจับที่ปกเสื้อตัวนั้นแล้วก็ไล่ลากนิ้วลงมายังหน้าอก
     “เวลานายมาที่บ้าน นายควรจะใส่แค่นี้แหละ เห็นละมันอย-----” แจจินเริ่มพูดจาไม่รู้เรื่องแล้ว “ซึงฮยอน จูบพี่สิ”



     ตั้งแต่ถอดกางเกง รวมถึงตอนที่ขึ้นมาบนห้องนอนกับเสื้อนักเรียนตัวเดียว แจจินชอบเวลาซึงฮยอนทำตามคำสั่งของเขา


     จูบๆนี้จึงสร้างความพึงพอใจให้ได้มากกว่าทุกครั้ง


     แจจินควานหาอะไรบางอย่างด้วยความร้อนรน คนด้านบนเดาว่าเขาอาจอยากจับมือเลยยื่นมาให้
     ก็ถูก
     หลังมือของซึงฮยอนถูกคว้าไว้


     สำหรับขั้นตอนปลุกสร้างอารมณ์ มือ เป็นอวัยวะที่ได้รับบทบาทสำคัญในการกระตุ้นเส้นประสาททั่วร่างกาย และหากถามว่าการกระตุ้นดังกล่าวเป็นหน้าที่ของนักรักฝ่ายไหน คำตอบก็คือ ทั้งคู่ แต่สถานการณ์บนเตียงนี้ไม่ใช่แบบนั้น


     จริงอยู่ที่ฝ่ามือหนากำลังลูบไล้ บีบ เค้น ไปทั่วทุกอวัยวะที่เผชิญหน้ากับเขา
     แค่ทุกการกระทำมันอยู่ภายใต้การควบคุมของแจจินก็เท่านั้นเอง


     หากร่างเล็กประสงค์จะให้เขาใช้เล็บขูดจิกที่ส่วนไหน นิ้วที่อยู่ด้านบนก็จะบังคับนิ้วด้านล่างให้ทำตาม


     ในตอนนี้ทั้งคู่เลื่อนลากลงไปถึงโคนขาด้านในของแจจิน แต่เจ้าตัวดูจะอยากนำเสนอลักษณะยีนเด่นของตนเองจึงปล่อยให้ซึงฮยอนได้ลูบ ขยำ อะไรตรงนั้นอยู่สักพัก



     “ฮื่อ...” สองปากที่ยังดูดดุนกันไม่มีท่าทีจะละออก มือของเด็กหนุ่มถูกนำพามาถึงส่วนสำคัญ ฝ่ายที่มีอำนาจสั่งการจับให้เขาชักมันขึ้นลงอย่างช้าๆ แจจินส่งเสียงครางทั้งที่ยังจูบกับซึงฮยอนอยู่


     คราวนี้ ความเร็วจากเบื้องล่างถูกเพิ่มขึ้น แรงหอบที่ถูกระบายออกทางจมูกอย่างเดียวคงไม่พอ หนึ่งปากพยายามถอนออกแต่อีกปากไม่ยอม สายตาอ้อนวอนที่ส่งมาทำให้ผู้หวังดีต้องศิโรราบ


     ระดับความดังเพิ่มขึ้นแต่ก็ยังถูกจำกัดด้วยตัวกลางที่เป็นช่องปากของอีกคน เสียงร้องของแจจินจึงออกมาในลักษณะอู้อี้แต่ก็สร้างความพอใจให้ซึงฮยอนได้ไม่น้อย ส่วนอีกกระบวนการก็ยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่องและเร็วขึ้น เร็วขึ้นเรื่อยๆ


     แจจินทำของเขาเองหมด
     มือของซึงฮยอนเป็นเหมือนแค่ตัวแทนส่งต่อแรงสัมผัสให้เท่านั้น






     ใกล้แล้ว... แจจินใกล้ถึงแล้ว...


     แต่ถ้าเรายังประกบปากกันอยู่แบบนี้ มีหวังคนรักของเขาต้องหายใจไม่ทันแน่ๆ
     ซึงฮยอนคิด






     เสียงหอบปนเสียงแห่งความทรมานดังชัดเจนข้างใบหูของเขา แก้มที่แนบกันอยู่ทำให้ซึงฮยอนรู้ว่าอีกคนตื่นเต้นแค่ไหน แจจินกอดรัดเขาแน่นดั่งงูรัดเหยื่อ สะโพกที่อยู่ไม่สุขขยับขึ้นลงเหมือนเจ้าของร่างกำลังจินตนาการอะไรบางอย่างไปด้วย ของเหลวเนื้อค่อนข้างข้นพุ่งออกมาราดรดหลังมือของทั้งสอง ร่างเล็กส่งเสียงหัวเราะปลื้มอกปลื้มใจ ขาที่โอบเกี่ยวสะโพกของรุ่นน้องอยู่ขยับขึ้นมาที่ถึงเอวหนา แจจินสบสายตาเชื้อเชิญให้ซึงฮยอนก้มลงไปพิจารณาบางสิ่งที่ตอนนี้แก่นกายของเขาจดจ่ออยู่...


     ชายเสื้อนักเรียนถูกเปลี่ยนเป็นผ้าเช็ดน้ำกาม แต่ด้วยคุณสมบัติในการซึมซับของเหลวที่ต่ำจึงทำให้อาภรณ์หนึ่งเดียวของซึงฮยอนทำหน้าที่ตรงนี้ได้ไม่ดีนัก เนื้อตัวของเขาชื้นแฉะไปด้วยผลพลอยได้จากร่างกายแจจิน
     ซึ่ง จริงๆแล้วเขาก็โอเคกับสภาพแบบนี้นะ


     เย็นดี



     “แจจิน เมื่อกี๊พี่คิดอะไรอยู่เหรอ” ซึงฮยอนส่งคำถามไปพร้อมกับรอยยิ้ม เขาอยากไขข้อสงสัยว่าอะไรที่ทำให้แฟนตัวเองทำท่าทางแบบนั้นตอนกำลังจะถึงจุดสุดยอด
     “พี่... คิดว่ากำลังเอานายอยู่”



     คนถามทำตาโต แต่แล้วก็หัวเราะออกมา



     “แล้วพี่ อยากลองทำจริงดูมั้ยอะ” ซึงฮยอนแกล้งถามเล่นๆ
     “ม่ายอะ สงสาร...”



     มีเสียงถอนหายใจอย่างโล่งอกดังออกมา



     “...ไว้วันหลัง”



     แจจินยกขาเข้าสอดไว้ใต้เสื้อนักเรียน ของเหลวบางส่วนที่ไม่ได้ซึมไปเข้าในเนื้อผ้าเลอะเปรอะหน้าแข้งและหัวเข่าของเขา



     “ซึงฮยอน ทำไมไม่เช็ดให้ดีเนี่ย” เจ้าของน้ำขาวขุ่นเอ็ดแฟนเด็ก
     “พี่โดนแค่ขา ดูผมด้วย เต็มพุงเต็มแขนยังไม่เห็นบ่นเลย”



     ร่างสูงเหลือบไปเห็นหลอดเจลหล่อลื่นวางสงบอยู่บนเตียง แม้จะงงนิดหน่อยแต่ก็ยื่นมือไปจะเอื้อมหยิบ แจจินที่มองดูอยู่รีบรั้งแขนเขาไว้พร้อมกับส่ายศีรษะเป็นเชิงว่า ไม่ต้อง


     อะ ก็ได้ ซึงฮยอนรับทราบ


     ในครั้งแรกนี้ นิ้วหัวแม่มือถูกเลือกให้เป็นตัวช่วยเปิดทาง แต่ดูเหมือนอีกคนจะเตรียมการเอาไว้แล้ว เจ้าของนิ้วรู้สึกว่ามันเข้าไปได้ง่ายกว่าที่คิด จนกระทั่งจู่ๆซึงฮยอนก็นึกถึงสิ่งที่เขาเห็นตอนเพิ่งเข้ามาในห้อง กับของที่วางอยู่บนเตียงมาตลอด...


     แจจินช่วยตัวเองไปก่อนหน้านั้นแล้ว
     น่าจะเป็นช่วงที่รอเขาอยู่สินะ


     ถ้างั้นทั้งคู่ก็คงพร้อมกันแล้ว ซึงฮยอนจับของตัวเองยื่นจ่อที่ปากทางเข้า ความตื่นเต้นเข้าครอบงำสมองจนแทบลืมหายใจ มือของรุ่นพี่จับคางเขาให้เงยขึ้นมาและมองหน้ากันไว้



     ‘ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ นายต้องมองมาที่พี่ เท่านั้น’



     ตำแหน่งและท่าของแจจินในขณะนี้ค่อนข้างเอื้อต่อการขยายพื้นที่ตรงนั้นได้เป็นอย่างดี อวัยวะที่แข็งตึงเต็มที่กำลังถูกผลักส่งเข้ามาในร่างเล็ก



     “อ้ะ... อื๊อเจ็บ ซึงฮยอน! เจ็บ!!! อ๊ะ“ แจจินเงยหน้าหลับตาปี๋ ไม่ได้สนใจที่ตัวเองเผลอร้องเสียงน่าเกลียดออกมา หน้าท้องเรียบเกร็งจนอีกคนกลัวว่าเขาจะตะคริวกิน



     เพราะว่าไม่ได้มีอะไรกับใครมานานหลายเดือนแล้ว และถึงแม้เจ้าแท่งจำลองสีน้ำเงินจะช่วยให้แจจินได้เตรียมตัวเตรียมใจก่อนล่วงหน้า แต่แท่งของจริงที่กำลังถูกใส่เข้ามาในตัวนั้นก็มีขนาดใหญ่กว่ามาก...


     ซึงฮยอนมองดูใบหน้าเหยเกของแจจินอย่างรู้สึกผิด



     “พี่ ครับ ทนอีกนิดนะ นิดเดียว”



     อีกคนไม่ตอบอะไรแต่พยายามปรับสีหน้าของตัวเองให้กลับมาเป็นปกติที่สุด


     เข้าไปจนสุดแล้ว


     เขายังค้างมันไว้อย่างนั้นเพื่อให้คนรักได้คุ้นชินกับขนาด แต่แจจินที่อยู่ข้างล่างกลับเป็นฝ่ายเริ่มขยับบั้นท้ายขึ้นลงด้วยตัวเอง ขาสองข้างของซึงฮยอนทรุดฮวบเมื่อของรักของตนเจอเข้ากับแรงตอดรัดอันหนักหน่วงจากช่องทางนั้น การโยกตัวของอีกฝ่ายเป็นไปอย่างทุลักทุเลเพราะท่าทางที่ไม่ได้ เขาจึงต้องรีบขยับให้แทน แต่ได้ไม่กี่ทีก็...



     “วันนี้เรียนเหนื่อยเหรอ”



     แจจินคิดจะชวนคุยงั้นเหรอ



     “ก...ก็ นิดนึงครับ”



     จังหวะที่เนิบนาบมันไม่ทันใจหรืออะไร แจจินขยับตัวออกจากเขาเสียดื้อๆและลุกขึ้นมาอยู่ในท่านั่ง



     “งั้นนาย อยู่เฉยๆละกัน” มือเล็กผลักร่างซึงฮยอนมาอยู่ในท่าเดียวกับเขาแต่ให้หันหน้าเข้าหา แจจินยิ้มมุมปาก หลังจากเขยิบกายเข้ามาใกล้จนต้องเรียกว่ากำลังนั่งอยู่บนตักอีกคนแล้ว ผมสั้นชุ่มเหงื่อถูกลูบขยี้อย่างเอ็นดูก่อนที่จะถูกแรงจากมือคู่เดิมดันเข้าไปที่เนินอก



     เปียก...
     เปียกไปหมด


     จากผิวเนียน ถูกแทนที่ด้วยริมฝีปาก


     เด็กหนุ่มเผลอสูดหายใจแรงเมื่อส่วนอ่อนไหวของเขาถูกมืออีกคนกุมเอาไว้ ร่างอ้อนแอ้นบนตักยกตัวขึ้นแต่ปากที่ยังดูดงับกันอยู่ทำให้ซึงฮยอนต้องเงยหน้าตามทั้งๆที่กำลังทรมานจากความเสียวด้านล่าง



     “อื้อ...” ถึงแม้ว่าตำแหน่งจะถูกสับเปลี่ยน สุดท้ายแล้วแก่นกายของหนุ่มวัยสิบแปดก็ได้เข้าไปอยู่ในร่างกายของแจจินอีกครั้ง


     คนที่ถูกสั่งให้นั่งเฉยๆเริ่มปวดเคล็ดบริเวณเหนือเอว แขนและมือของเขาไม่ได้รับอนุญาตให้เอาไปใช้ยันร่างกับที่นอนเพราะแจจินจะคอยดึงมันกลับมาไว้ที่บั้นท้ายของตนเอง แผ่นหลังที่ไม่ได้พิงอะไรอยู่เลยก็ต้องเกร็งตลอดเวลาเพื่อรับน้ำหนักตัวและแรงขย่มของอีกคน


     ทุกส่วนของซึงฮยอนต้องโฟกัสมาที่ร่างกายของแจจิน



     ‘โคตรเมื่อย
     แต่ก็โคตรรู้สึกดี’



     ร่างข้างบนที่กำลังขยับตัวขึ้นลงในอ้อมแขนของเขาขยุ้มจิกเสื้อนักเรียนตามจังหวะที่เจ้าท่อนเอ็นนั่นเสียบแทงเข้าไปจนมิด ความเร็วแรงที่ถูกเพิ่มจนสูงสุดแล้วยังไม่มีทีท่าว่าจะทำให้ใครคนใดคนหนึ่งพอใจ มือแกร่งช่วยพยุงดันบั้นท้ายสวยให้แจจินไม่ต้องสูญเสียพลังงานเยอะ แต่อดีตติวเตอร์ชีวะหาได้สนใจความหวังดีตรงนี้


     ยิ่งซึงฮยอนมาช่วย แจจินก็ยิ่งกดกระแทกมันแรงขึ้น






     เสียงครางกระเส่าที่อธิบายออกมาเป็นตัวอักษรไม่ได้...


     ความรู้สึกของทั้งคู่ที่ไม่อาจมีใครเข้าใจได้ดีเท่าตัวพวกเขาเอง...






     สายตาพร่ามัวเหลือบไปเห็นอวัยวะหนึ่งที่โดนเมิน แก่นกายของแจจินยังตั้งชูชันและหันหัวเข้ามาทางเด็กหนุ่ม ซึงฮยอนไม่ปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปมากกว่านี้ เขารีบเอื้อมมือไปช่วยเหลือคนรักอีกแรง


     คนตัวเล็กส่งเสียงร้องดังลั่นอย่างไม่อายเพื่อนบ้านที่อาจได้ยินเนื่องจากหน้าต่างห้องยังเปิดอยู่ มือหนาที่กอบกำแท่งเนื้อบีบมันแรงขึ้นและใช้จังหวะการชักรูดเดียวกันกับที่ตนเองได้รับ ซึงฮยอนต้องการให้แจจินเกิดความรู้สึกที่เหมือนกับตัวเขาเองขณะนี้ แม้ว่าจะไม่ได้เป็นฝ่ายสอดใส่






     นานเพียงพอแล้ว


     สำหรับทั้งคู่






     ในอัตราเร็วที่เพิ่มมากกว่านี้ไม่ได้อีก แจจินครางเสียงแหลมรัวจนคนได้ยินเริ่มเสียวเกร็งไปตามๆกัน บทบรรยายระบายความกำหนัดของทั้งสองดังระงมปะปนจนจับใจความไม่ได้อย่างสิ้นเชิง...


     แจจินจะถึงแล้ว เขาตะโกนชื่อซึงฮยอนดังไปสามบ้านแปดบ้านราวกับจะป่าวประกาศว่าตอนนี้ตนกำลังตกเป็นของใคร



     “...ฮือ ซึง--ย็อน”



     ความใคร่รอบที่สองถูกปลดปล่อยพร้อมกับเสียงร้องไห้โฮ
     อย่างไม่ทราบสาเหตุ


     ซึงฮยอนยังไม่รับรู้อะไร ความอัดอั้นตลอดหนึ่งเดือนกว่าของเขากำลังหลั่งไหลออกมาในรูปของของเหลวชนิดเดียวกันกับของอีกคนที่ยังเปรอะฝังอยู่บนผ้าที่สวมใส่อยู่


     เพียงแต่ว่า น้ำ ของเด็กหนุ่ม มันไม่ได้ออกไปสู่โลกภายนอกเพราะถูกแผ่นยางบางเฉียบปิดกั้นเอาไว้ สัญญาณเดียวที่ทำให้แจจินรู้ว่าคู่ร่วมรักของตัวเองถึงจุดสุดยอดแล้วจึงกลายเป็นเพียงแรงกระตุกเบาๆจากความเป็นชายในช่องทางลับนั้น


     ความเปียกแฉะบริเวณมือเรียกสติเขากลับคืนมาอีกครั้ง ไม่เพียงแค่นั้น ที่หน้าท้องและเสื้อนักเรียนก็เลอะ(อีกแล้ว) ส่วนปลายของสิ่งที่ซึงฮยอนยังกุมไว้อยู่มีน้ำข้นสีเหมือนนมไหลออกมาเป็นระลอกๆอยู่พักหนึ่ง


     แต่แล้ว ร่างหนาก็รู้สึกถึงความเปียกชื้นที่ไหล่
     อีกหนึ่งจุด



     “แจจิน พี่ร...พี่ร้องไห้ทำไม!”ตอนนี้ทั้งสองอยู่ในท่านั่งชันเข่าซ้อนกันอยู่ แจจินโอบซึงฮยอนไว้ ใบหน้าเล็กซุกซ่อนในซอกคอของเขา มีเสียงสะอื้นเล็ดลอดออกมาไม่หยุด



     ซึงฮยอนผลักตัวรุ่นพี่ออกมาเพื่อที่จะได้พูดคุยกันให้รู้เรื่อง อี แจจิน ในตอนนี้นัยน์ตาแดงก่ำ น้ำมูกน้ำตาไหลอาบหน้า ริมฝีปากสั่นระริก…


     ในความรู้สึกของเขา มันไม่ได้มีแค่ความเสียใจ
     ความสุข
     หรือความโกรธ
     

     เพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง


     แต่ทุกอารมณ์ที่กล่าวถึงมันถูกยำกันมั่วในหัวสมอง อะไรบางอย่างที่แจจินเก็บงำไว้มานานตั้งแต่ช่วงแรกๆที่เขาคบกับซึงฮยอน... ช่วงแรกๆที่เขารู้ความจริงบางอย่าง...



     “ซึงฮยอน...” คนตรงหน้ายังคงร้องไห้อย่างหนักหน่วง “...พี่รักนาย รักนายคนเดียว รักมากๆ”
     “ผมก็รักพ--”
     “รักแล้วนายทำกับพี่แบบนี้ได้ยังไง!!!” เขาขึ้นเสียง



     เด็กหนุ่มผงะ



     แจจิน รู้เหรอ



     “รู้จักกับมันมานานเท่าไหร่แล้ว”
     “...”
     “พี่ถามว่านายแอบคบกับแจฮยอนญาติพี่มานานแค่ไหนแล้ว! ตอบสิวะ!!!” แจจินตวาดใส่ซึงฮยอนแรงยิ่งกว่าเมื่อวันก่อน
     “ส...สองเดือนครับ” เด็กหนุ่มคอแห้งผาก



     เขาไม่คิดว่าเรื่องนี้จะถูกหยิบมาพูดในเวลาแบบนี้



     “อ๋อ ก่อนพี่... อีกสินะ”



     สายน้ำตาทะลักล้นออกมาเรื่อยๆ ผิวหนังใต้ดวงตาคู่สวยเริ่มบวม
     ส่วนอีกคนก็กลายเป็นอัมพาต พูดอะไรต่อไม่ได้






     ยังอยู่ในท่าเดิม ทั้งสองนั่งนิ่งท่ามกลางความเงียบงัน แจจินเรียกสติของตนเองกลับมาและรอให้อาการสะอึกสิ้นสุดลง



     “มันเป็นความผิดของพี่เอง... ตอนนั้นพี่เอาแต่ลังเล” คนพูดทิ้งจังหวะสูดน้ำมูก ตัวสั่นเทา “จริงๆพี่มันลังเลไปซะทุกเรื่องแหละ ก็คงไม่ผิดหรอกที่นายจะ...”



     ไม่อาจพูดจนจบประโยคได้



     “แต่ตอนนี้ พี่รักนายมาก...” เสียงขาดหายไป น้ำตาหยดใหญ่ไหลออกมาอีกแล้ว



     ซึงฮยอนดึงแจจินเข้ามากอด ตอนนี้เขาก็ร้องไห้เหมือนกัน
     ด้วยความสำนึกผิด



     “...รัก รักจนไม่อยากเสียนายไปให้ใคร ได้ยินมั้ยซึงฮยอน ทีแรกพี่คิดว่าจะปล่อยนายไปได้ แต่--”
     “ไม่! ผมจะไม่ไปจากจากพี่! แจจิน ผมขอโทษ ผมขอโทษจริงๆ ผมมันชั่ว” เด็กหนุ่มม.ปลายตอนนี้กำลังร้องไห้เหมือนเด็ก เขากอดแจจินแน่นอย่างกับว่านี่จะเป็นวินาทีสุดท้ายที่ได้อยู่กับคนๆนี้
     “พี่ไม่รู้ว่านายคิดยังไง คิดอะไร... ระหว่างพี่ กับแจฮยอน”
     “ผมจะเลิกติดต่อกับเขา แจจิน ผมรักพี่ รักพี่คนเดียว ผมไม่เคยรักแจฮยอน จริงๆนะครับ แจจิน เชื่อผมสิ”



     แจจินหลับตาเค้นน้ำที่คั่งอยู่ให้ออกมา ตลอดเวลาที่อีกคนพูดร่างเล็กส่ายหัวเป็นความหมายว่า เขาไม่เชื่อ



     “พี่ยังไม่อยากเชื่ออะไรที่ออกมาจากปากนายตอนนี้”
     “พ... ฮึ่ก พี่ครับ...” ซึงฮยอนซบหน้าลงบนไหล่แจจินก่อนจะปล่อยโฮออกมาจริงจัง
     “พี่ จะให้นายเลือกเอง”
     “ผมเลือกพี่ครับ ฮือ ได้โปรด พี่แจจิน ผมผิดไปแล้ว”
     “ไปคิดให้ดี”



     ซง ซึงฮยอน บอกกับตัวเองเสมอว่าในหัวใจเขามีเพียงแจจิน
     แค่ อี แจจิน คนเดียวจริงๆ


     แต่น่าเศร้าเหลือเกินที่ การกระทำที่ผ่านมามันช่างตรงกันข้าม



     ‘คนที่รักกันจริง เขาไม่แอบไปหลับนอนกับคนอื่นหรอก’



     “แจจิน พี่จะตบจะตีผมให้ตายไปเลยก็ได้ ผม...ผมยอมรับผิดแล้ว”
     “ให้คำตอบกับพี่วันหลังนะ
     แต่ ตอนนี้...”
     “...”
     “ยานั่น มันยังไม่หมดฤทธิ์
     ...ช่วยอยู่ด้วยกันก่อนได้มั้ย”



     แจจินหลับตา แล้วยื่นหน้าเข้าไปจูบซึงฮยอน
     จูบที่สร้างความขมขื่นอย่างมหาศาลให้กับอีกฝ่าย


     ทั้งสองพยายามทำเหมือนกับว่าที่ผ่านมามันไม่มีอะไรเกิดขึ้น


     แต่จะพยายามกันได้นานสักแค่ไหน...



     “เรา ไปหาที่มืดๆกันดีมั้ย
     พี่ไม่อยากเห็นอะไรอีก”



     ร่างเปลือยเปล่าลุกออกจากเตียงและเดินนำไปยังห้องน้ำด้านข้าง
     สวิตช์ไฟบนผนังไม่ได้ถูกสับ


     แล้วประตูห้องก็ปิดลง





     การร่วมเพศของทั้งคู่ต่อจากนี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากความรักทั้งหมด จริงอยู่ที่พวกเขาสองคนรักกัน ซึงฮยอนรักแจจิน เกิดอารมณ์กับแจจิน... แต่อีกฝ่ายนั้นได้รับอิทธิพลจากปัจจัยอื่นซึ่งสร้างผลกระทบที่รุนแรงยิ่งกว่า


     จากแค่ต้องการ... 


     ทวีเพิ่มเป็นความขาดแคลน


     และ เขา ได้รับมอบหมายหน้าที่ในการพาแจจินหลุดพ้นจากความทรมาน






     แค่รีบขจัดความกระสันที่ยังหลงเหลืออยู่ให้หมดๆไป
     ฉะนั้น การมองหน้ากันก็คงไม่จำเป็น


     นี่คือบทลงโทษสำหรับซึงฮยอน






     เสียงที่ดังผ่านบานประตูออกมาไม่มีส่วนผสมของชื่อคน อุปกรณ์ป้องกันถูกนำมาเปลี่ยนใหม่จนเกลี้ยงแพ็ค ฤทธิ์ยาใกล้หมดเต็มทีแล้ว เด็กหนุ่มรับรู้ได้จากการสังเกตพฤติกรรมของคนที่ใช้มันอย่างคร่าวๆ


     ดูเหมือนว่านี่คงจะเป็นรอบปิดท้าย ที่มืดภายในบ้านถูกใช้งานไปจนครบ ทั้งสองกลับมายังห้องนอนอันเป็นจุดแรกของการทำกิจกรรม ตะวันใกล้ลับขอบฟ้าแต่ก็ยังมีแสงสว่างหลงเหลืออยู่


     และแน่นอนว่า มันไม่เป็นที่ต้องการของแจจิน






     เสื้อนักเรียนตัวชื้นที่ซึงฮยอนโดนขอร้องให้ถอดทิ้งตั้งแต่ก่อนเข้าห้องน้ำถูกนำมาใช้เป็นผ้าปิดตา เสียงหวานเอ่ยถามหาของแข็งชื่อประหลาดแท่งเดิมที่นอนแน่นิ่งบนพื้นใกล้ขาตู้


     แจจินบอกให้คนที่ยังมองเห็น ยัด สิ่งนั้นเข้าไป
     แล้วปล่อยมันคาไว้อย่างนั้น


     ส่วนซึงฮยอนที่เพิ่งจะได้ฤกษ์เปลือยกายอย่างสมบูรณ์เอาตอนนี้คงจะมีความสุขมากขึ้นเมื่อได้ยินว่าอีกฝ่ายจะขอใช้ปากทำให้


     ที่ผ่านมาเขาต้องจินตนาการเอาเองว่าแจฮยอนคือแจจิน แต่ในตอนนี้ ช่วงเย็นของวันศุกร์สุดสัปดาห์ที่ต่างคนต่างเหนื่อยล้าจาการเรียนหนัก ความปรารถนาสูงสุดของซึงฮยอนกำลังจะเป็นจริงถึงแม้ว่าปมขัดแย้งบางอย่างจะยังคงรบกวนจิตใจอยู่เป็นระยะ


     ต่อจากวินาทีนี้ เขาขอลืมมันทั้งหมดไปก่อน



     “แจจินครับ”



     คนที่ถูกเรียกชื่อมองไม่เห็นว่าตอนนี้ซึงฮยอนได้เอาส่วนหนึ่งของร่างกายเขามาจ่อไว้ตรงหน้าตนแล้ว แจจินเงยหัวขึ้นไปตามเสียงเรียก ภาพของทั้งคู่ดูเหมือนสุนัขแสนเชื่องกำลังนั่งรอของกินกับเจ้าของสุนัขที่ถือขนมอยู่ในมือ


     แจจินเงี่ยหูฟังว่าอีกคนจะพูดอะไรต่อ



     “ได้โปรด รับรู้ว่าคนตรงนี้คือผมได้ไหม แค่ครั้งนี้”



     ซึงฮยอนไม่ได้รับคำตอบที่เป็นคำพูด แต่ได้จากการกระทำ สัมผัส และภาษากายที่มีแค่พวกเขาสองคนเข้าใจ ผ่านไปครึ่งทาง อิริยาบถถูกเปลี่ยนโดยการชักนำของคนที่เด็กกว่า จากที่มีแค่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายเดียวเป็นผู้ปรนเปรอ แจจินที่นั่งยองอยู่โดนดันให้หงายหลัง ศีรษะมนเข้ากระแทกลงบนหมอนข้างใบหนาพอดิบพอดี ร่างสูงใช้เวลาคำนวณองศาไม่ถึงวิก็ตามลงไปนอนคร่อมอยู่บนตัวของอีกคนในลักษณะกลับหัวกลับหาง


     หน้าที่ของการปรนเปรอถูกหารครึ่ง ซึงฮยอนพยายามเต็มที่ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยทำแบบนี้ให้กับใครมาก่อน






     ...สุขสม แต่ขมขื่น


     ...แตกซ่าน แต่ใจสลาย


     ...อิ่มเอม แต่เต็มไปด้วยทุกข์






     ดวงอาทิตย์อำลากิจวัตรของมันไปแล้ว ความมืดที่แท้จริงและอากาศเย็นค่อยๆคืบคลานเข้ามาในห้อง


     วันนี้คงเป็นวันแรกในรอบหลายเดือนที่คนในบ้านเข้านอนกันตั้งแต่หัวค่ำ






     “นายนี่ก็ร้ายไม่เบาเลยนะ... อี แจจิน”



     ภาพมุมสูงของห้องนอนขนาดใหญ่ห้องหนึ่งฉายปรากฏอยู่บนหน้าจอโน้ตบุ๊ก บุคคลผู้เป็นเจ้าของคอมพิวเตอร์เครื่องนี้ใช้เวลาตลอดทั้งเย็นวันศุกร์ไปกับการชม หนังสด ของชายสองคนซึ่งถูกถ่ายทำโดยกล้องวงจรปิดที่ คิม แจฮยอน นำไปติดตั้งไว้ด้วยตัวเอง


     เสียใจเหรอ
     ไม่หรอก


     แจฮยอนคิดไว้ไม่ผิดว่าสุดท้ายแล้วแจจินก็ต้องยอมเอาร่างกายเข้าแลกเพื่อให้ได้คนรักกลับคืน
     แต่ ถึงขั้นที่ต้องใช้ยาปลุกเซ็กส์กับตัวเองนี่มันจะดูเหยียดหยามซึงฮยอนไปหน่อยรึเปล่า...


     แต่เอาเถอะ เขารักกันนี่นะ



     “ดีใจด้วยนะฮะ พี่แจจิน
     ถึงเวลาที่จะต้องส่งของขวัญไปแสดงความยินดีกับมึงหน่อยแล้วล่ะ”












-  To be continued  -