January 29, 2018

[FANFIC/ขอ...เรื่องที่สอง] FTISLAND&CNBLUE 'ขอ...' (JUNGSEUNG)




FTISLAND & CNBLUE Fanfiction

- - - - - - - - - - - - -
ขอ...
เรื่องที่สอง
- - - - - - - - - - - - -



Genre:    Crossband, POV, Bromance
Pairing:   Lee Jungshin x Song Seunghyun
Rating:    PG-13
#ฟิควูบ



 〓 
 〓 










ผมยังจำสีหน้าลุ้นแทบตายของพี่เขาได้ดี...ตอนที่จองชินถามผมว่าขอจีบได้รึเปล่าน่ะ

น่ารักชะมัด




ผมยิ้มเหมือนคนบ้าระหว่างเดินกลับห้อง ที่จริงก็เป็นอย่างนี้ทุกครั้งที่เขามาส่งผมใต้หอ วินาทีที่เขามองผม บอกลาผม แม่งเอ๊ย มันทั้งเขินทั้งเสียดายในเวลาเดียวกัน









 〓 









"ทำไมวันนี้เลิกเร็ว เพิ่งห้าทุ่มเอง" เหมือนเดิมที่จะมีคนมายืนรอผมตรงทางออกสนาม หลังจากวันนั้นการกระทำแบบนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญอีกต่อไปเพราะพี่เขาสัญญาแล้วว่าจะมาหาทุกวัน


คุ้มค่ากับที่เมื่อก่อนผมก็อุตส่าห์เทเพื่อนที่มีมอไซค์เพื่อมาเดินกลับหอกัับเขาหลังซ้อมเสร็จ

ก็นะ แบบว่าอยากอยู่กับจองชินนาน ๆ อะ


"พรุ่งนี้มีแข่ง ตอนเย็น โค้ชอยากให้เราพักผ่อนเยอะ ๆ" ผมเงยหน้ามองคนที่กำลังลูบหัวผมอย่างไม่รังเกียจเหงื่อชุ่ม ๆ บนนั้นในความมืด ระหว่างที่รอจองชินคงไปอาบน้ำมาแล้วเพราะสภาพของเขากับผมในตอนนี้ช่างดูแตกต่างกันเหลือเกิน
"อ๋อ งั้นก็รีบกลับไปนอนกันเถอะนะ"


ทำไมถึงไม่ยอมเขยิบสถานะขึ้นไปสักทีวะกู รู้ทั้งรู้ว่าเราก็ชอบพี่เขา และพี่เขาก็ชอบเรา

แล้ว...จะยังลังเลอะไรอยู่อีก


จองชินเป็นคนน่ารัก นิสัยดี คุยเก่ง ทัศนคติก็ไม่ได้แย่อะไร ค่อนข้างจะเข้าข่ายสเป็คผมเลยด้วยซ้ำ เสียอยู่อย่างเดียวก็ตรงที่เขาชอบมองว่าผมยังเป็นเด็ก ไม่รู้เหรอถึงจะอายุน้อยกว่าแต่ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะเป็นฝ่ายเดียวที่ต้องการการดูแลสักหน่อย บางทีผมก็อยากดูแลพี่บ้างเหมือนกันนะ


"พอมายืนใกล้ ๆ เราตัวเล็กกว่าพี่เยอะอยู่นะเนี่ย" เอ้า ก็เล่นสูงเกินมนุษย์ขนาดนี้มันก็แน่นอนอยู่แล้วปะ
"ใครมายืนข้างพี่ก็เตี้ยกว่าพี่ทั้งนั้นแหละ" ผมยอมให้เขาเดินกอดคอไปตลอดทางเหมือนทุกที จริง ๆ ก็แอบอยากถามจองชินนะว่าจะรีบอาบน้ำทำไมถ้าสุดท้ายก็ยังจะมาคลุกอยู่กับผมที่ตัวโชกเหงื่อ "นี่ ไม่กลัวตัวเหม็นเหรอ อาบน้ำแล้วอะ"
"เหม็นอะไร ใครเหม็น เราเหรอ...ก็หอมดีหนิ"


ใจผมแทบหลุดออกมาจากร่างตอนจองชินยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ลมหายใจฟึดฟัดที่เขาพ่นใส่เมื่อกี๊ทำผมรู้สึกเสียววาบไปหมด


"อย่าโกหกดิ" ผมพยายามไม่แสดงออกว่ากำลังเขิน "เวลานี่เข้าเซเว่นทีไรพนักงานทำหน้ายี้ใส่ตลอด"
"เขาไม่ชอบแต่พี่ชอบไง" ให้ตายเถอะ นายคนนี้ทำท่าจะหอมแก้มผมอีกแล้ว
"ไม่เอาน่า"


เป็นเหมือนกันใช่มั้ยเวลาอยากอยู่กับใครนาน ๆ ทุกอย่างก็จะผ่านไปด้วยความรวดเร็ว ระยะทางเดินกลับหอที่อยากให้ยาวมากกว่านี้แต่นับวันก็ดูจะสั้นลงเรื่อย ๆ




"ซึงฮยอน คืนนี้ขอนอนด้วยได้มั้ย"




ผมไม่รู้ว่าจองชินคิดยังไง และผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองคิดอะไรอยู่ถึงได้ตอบตกลง เราสองคนหยุดยืนอยู่หน้าประตูห้องหมายเลข 0809 ผมหันไปมองเขาแปบนึงก่อนจะเอื้อมมือไขกุญแจ น่าแปลกที่ในแววตาของรุ่นพี่คนนี้ไม่มีอะไรบ่งบอกถึงความต้องการอย่างอื่นนอกเหนือไปจากได้อยู่ด้วยกันกับผม


"ห้องมีอะไรกินรึเปล่าอะ" จองชินถามพลางเดินสำรวจหาของกินอยู่แถว ๆ โต๊ะเขียนหนังสือ
"มีแต่น้ำเปล่า โค้ชสั่งทุกคนคุมน้ำหนักไม่งั้นจะถูกปรับ" พูดแล้วก็เศร้าว่ะ จากที่เคยมีขนมมีมาม่าวางอยู่เต็มชั้นตอนนี้เหลือแต่ความว่างเปล่า ป้าร้านโต้รุ่งที่เคยซี้กันถ้าผมไปอ้อนขอไข่เจียวฟรีอีกเธอคงไม่ให้แล้วเพราะจำผมไม่ได้
"งี้ก็หุ่นดีเลยสิ"


ผมรีบเข้าไปอาบน้ำเพราะรู้สึกไม่ค่อยแน่ใจว่าไอ้ประโยคเมื่อกี๊ที่พี่เขาพูดมันจะเป็นแค่ประโยคบอกเล่าธรรมดา ๆ แต่เท่าที่รู้จักกันมา...จองชินคงไม่ได้เป็นคนแบบนั้นหรอก มั้ง

ขอเถอะเรา อย่าหวั่นไหวกับเขาไปมากกว่านี้เลย


"รังเกียจมั้ยถ้าพี่จะไม่อาบน้ำแล้ว" คนถามยังนั่งเล่นมือถืออยู่ปลายเตียง เพราะงี้ไงผมถึงชอบเขา จองชินไม่เคยทำให้ผมรู้สึกว่ากำลังถูกรุกล้ำข้ามเส้น เขาให้เกียรติและเอาใจใส่ผมตลอด ไม่รู้ว่าคิดไปเองมั้ยแต่ทั้งการกระทำและคำพูดของเขามันบอกหมด อย่างเช่นตอนนี้ที่ผมเดินออกจากห้องน้ำมากับชุดนอนปกติของตัวเองซึ่งก็คือใส่แค่บ็อกเซอร์ตัวเดียว พี่เขายังไม่เห็นแสดงท่าทีหื่นกามใส่ผมเลยสักนิด
"ไม่เป็นไรนอนไปเถอะ เตียงผมก็ไม่ได้สะอาดเท่าไหร่หรอก"


ทุกอย่างดำเนินไปเหมือนเวลาที่อยู่ห้องคนเดียว ผมตั้งนาฬิกาปลุกในโทรศัพท์เตรียมเข้านอน ปรับแอร์นิดหน่อยให้อากาศพอเย็นสบายไม่ร้อนไม่หนาวเกิน เปลือกตาทั้งสองข้างเริ่มหนักเพราะความเหนื่อยล้าที่สะสมมาตลอดทั้งวัน นอกจากนั้น สติและการรับรู้ในสิ่งรอบตัวของผมก็ค่อย ๆ ลดเหลือน้อยลงทุกที

จนกระทั่งผม...หันไปเห็นพี่จองชินกำลังถอดเสื้อ


ฟุ่บ!


"โห...นี่ เราล้มตัวนอนด้วยวิธีนี้ทุกวันเลยรึเปล่าเนี่ย" เสียงสปริงใต้ที่นอนเด้งดังลั่นราวกับจะขาดออกสร้างความตกใจให้รูมเมทชั่วคราวหลังจากที่ผมรีบกระโจนใส่เตียงแล้วเอาผ้าห่มคลุมโปงร่างตัวเอง "ตัวก็ไม่ใช่เล็ก ๆ กระโดดทีพี่นึกว่าแผ่นดินไหว"
"จองชิน บอกผมมาตรง ๆ" ผมนอนพูดอยู่ใต้ผ้านวมผืนหนา เผลอหลับตาปี๋ทั้ง ๆ ที่ก็มองไม่เห็นอะไรอยู่แล้ว
"..."
"ทำไมคืนนี้พี่ถึงอยากมานอนห้องผม"


จบคำถามจองชินถึงกับหัวเราะลั่น ผมรับรู้ว่ามีอะไรบางอย่างคลืบคลานเข้ามาใกล้แต่เพราะอยู่ในนี้ทุกอย่างที่คาดเดามันก็คลาดเคลื่อนไปหมด ผมหลบไม่ทันร่างกายอันหนักอึ้งของรุ่นพี่ที่เพิ่งทิ้งตัวทับลงมา เน้นเลยนะว่า ทิ้งลงมาทั้งตัว


"โอ๊ย--"
"ฮ่า ๆ  อยากรู้เหรอว่าทำไม" สองแขนของเขากอดรัดผ้านวม(ที่มีผมอยู่ในข้างใน)ไว้ "โผล่หน้าออกมาหากันก่อนสิ


ท่ามกลางบรรยากาศที่แอบทะแม่ง ๆ ผมยังคงมองสถานการณ์ในตอนนี้ไม่ออกเลยสักอย่าง จริงอยู่ที่เราสองคนกำลังดูใจกัน แต่...มันก็คงจะยังไม่ข้ามเลยไปถึงขั้นนั้น

ผมค่อย ๆ เอาหัวออกมาจากผ้าห่ม ตกใจเล็กน้อยที่เห็นจองชินนอนจ้องหน้าผมอยู่ก่อนแล้ว


"ก็คือว่า..." เนี่ย โดนลูบหัวแบบนี้ทีไรผมเป็นต้องเคลิ้มตามไปกับทุกอย่างที่เขาพูดตลอด "อยู่หอคนเดียวมันเหงาอะ"
"อ่าฮะ"
"อยากเข้าใจความรู้สึกเวลาได้เห็นหน้าคนที่ตัวเองชอบเป็นคนสุดท้ายก่อนนอน"


โอ่ย จบประโยคนั้นหน้าของผมร้อนผ่าวอย่างกับเพิ่งออกมาจากเตาอบ นับตั้งแต่วันแรกที่โดนมุกหยอดสารพัดสไตล์จากพี่จองชิน ขอบอกเลยว่าอันนี้พีคสุด

หยุดยิ้มไม่ได้แล้ว ช่วยด้วย


"คงคิดว่าพี่จะ...ขอเราทำ..." ผมพยักหน้ารัว ๆ ก่อนที่เขาจะพูดอะไรต่อ ใช่ เอาตามจริงนะ คิดอย่างนั้นเลย
"ฮ่า ๆ ไม่หรอก ขอแค่นอนกอดก็พอ ได้มั้ยครับ"


ผมรู้นะว่าตัวเองน่ารัก (มีหลายคนบอกมาอย่างนั้น)

แต่ผมไม่เคยคิดว่าบนโลกนี้จะมีคนที่ทั้งน่ารักและแสนดี
แบบเขา...

และนี่เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกเหมือนได้ตกหลุมรักใครคนเดิมใหม่อีกครั้งในทุก ๆ วัน


ผมยอมให้เจ้าของร่างที่ท่อนบนเปลือยเปล่าเหมือนกันเข้ามาในผ้าห่ม เราใช้เวลานานเกือบชั่วโมงไปกับการพูดคุยและนอนสบตากันเงียบ ๆ แค่นั้นไม่มีอะไรอย่างอื่น จนกระทั่งผมง่วงจนทนไม่ไหวก็เลยผล็อยหลับไป

"กู๊ดไนท์" เป็นคำพูดสุดท้ายที่ผมได้ยิน









 〓 









เครื่องปรับอากาศหยุดทำงานไปตั้งแต่สองชั่วโมงที่แล้วตามการตั้งค่าของเจ้าของห้องซึ่งก็คือผม ความร้อนที่ไม่ได้เกิดขึ้นจากแค่เพราะปิดแอร์เริ่มทำให้เราสองคนบนเตียงรู้สึกไม่สบายตัวและค่อย ๆ ลืมตาตื่น

เพิ่งเห็นว่าจองชินนอนกอดผมอยู่...แน่นซะด้วย

รู้สึกดีแฮะ


"สวัสดีตอนเช้า" เขากล่าวทักทายพร้อมขยับตัวกระชับอ้อมแขนให้แน่นยิ่งกว่าเดิม อยากจะหันหน้าไปหาเหมือนกันนะแต่ก็กลัวแก้มแดง ๆ ของตัวเองจะแย่งซีนดวงอาทิตย์ข้างนอกนั่น "ซึงฮยอน ตื่นรึยังครับ"


ผมจับมือเขาเป็นคำตอบ ในใจคิดอยากหลับต่อเพื่อที่จะได้อยู่กับจองชินแบบนี้ไปนาน ๆ แต่อีกใจนึงก็อยากลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวแล้วออกไปหาอะไรบางอย่างทำด้วยกัน

พูดง่าย ๆ ก็คือ ไม่ว่าจะเป็นตัวเลือกไหนผมล้วนอยากให้มีรุ่นพี่คนนี้อยู่ด้วย ตลอดเวลา

"พี่จองชินครับ" ผมเรียกเขาทั้ง ๆ ที่ยังนอนตะแคงหันหน้าไปทางอีกฝั่ง
"ว่าไง"
"อยากรู้ว่า พี่...รู้สึกเหมือนกันกับผมมั้ย" เมื่อคืนจองชินถามคำถามนั้นกับผมตรง ๆ งั้นวันนี้ผมก็จะถามคำถามนี้กับเขาตรง ๆ เช่นกัน ว่ามันถึงเวลารึยัง
"มีความสุข"


ผมหลับตายิ้มให้กับสิ่งที่ได้ยิน

ใช่ มีความสุข นี่แหละคำจำกัดความสำหรับความรู้สึกของเราในตอนนี้


"จริง ๆ แล้ว พี่มีมากกว่านั้นอีก"
"อะไรฮะ" ผมรีบหันกลับไปจ้องหน้าเขาด้วยความตื่นเต้นอยากรู้แต่ดันต้องมาใจระทวยอีกครั้งเมื่อได้สบตากับรุ่นพี่จองชินที่เพิ่งตื่นนอน


อ่า มีเสน่ห์เป็นบ้า


"พี่อยากขออะไรเราอย่างนึง...อีกแล้ว"
"อะไรเหรอครับ" ผมปล่อยคำถามซื่อ ๆ เชย ๆ นั่นออกไป แต่ลึก ๆ ในใจก็แอบหวังว่าสิ่งที่ผู้ชายที่เพิ่งตามจีบผมมาได้ไม่กี่วันแต่ใช้เวลาทำความรู้จักกันเกือบสองเดือนกำลังจะพูดต่อไปนี้จะต้องเป็น




"เป็นแฟนกันนะ"









 〓   THE END   〓 



อ่าน ขอ...เรื่องที่หนึ่ง ที่นี่

[FANFIC/ขอ...เรื่องที่หนึ่ง] FTISLAND&CNBLUE 'ขอ...' (JUNGSEUNG)




FTISLAND & CNBLUE Fanfiction

- - - - - - - - - - - - -
ขอ...
เรื่องที่หนึ่ง
- - - - - - - - - - - - -



Genre:    Crossband, POV, Bromance
Pairing:   Lee Jungshin x Song Seunghyun
Rating:    PG-13
#ฟิควูบ



 〓 
 〓 










"กูหานกหวีดจนทั่วแล้วแต่ก็ยังไม่เจอว่ะ ขอตะโกนเอาละกันนะ เอ้า... สาม สอง หนึ่ง ไป้!!!"




เวรจริง ซ้อมวันนี้ไอ้(พี่)ทึ่มยงฮวาเสือกทำนกหวีดหายซะงั้น แล้วดูสนามที่เต็มไปด้วยนักกีฬานี่สิ มองคร่าว ๆ น่าจะเกินครึ่งร้อยนะนั่น ทำไมทุกคนถึงมากองรวมกันอยู่ที่นี่วะทั้ง ๆ ที่มอเราก็เป็นมหาลัยใหญ่

สนามโซนเอที่ปกติก็มีคนมาออกกำลังกายตอนเย็นเยอะอยู่แล้วพอใกล้ถึงช่วงแข่งกีฬาระดับมหาลัยดูเหมือนนักกีฬาทุกคนจะพร้อมใจกันมาซ้อมที่นี่ รวมถึงพวกผมที่เป็น นักวิ่ง ด้วย

ปีนี้เป้าหมายของเรา...ไม่สิ จริง ๆ แล้วต้องบอกว่าเป็นเป้าหมายของไอ้ยงฮวา คือ "อย่าให้เสียชื่อเจ้าภาพ" เขาพูดเอาไว้ว่าอย่างนั้นอะนะ แต่เอาเถอะ ทั้งหมดทั้งมวลนี้ผมก็ทำเพื่อเหล้าฟรี 5 คืนต่อเนื่องที่มันออกปากสัญญาเอาไว้ต่างหาก


หลายคนก็ถามผมแหละว่า "อี จองชิน มึงสูงเป็นเปรตขนาดนี้ทำไมไม่เล่นบาส" ซึ่งผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน แต่การเป็นคนขายาวมันก็ทำให้วิ่งได้ไกลกว่าคนอื่นไม่ใช่เหรอ ปล่อยให้บาสเก็ตบอลเป็นกีฬาของพวกลีลาเด็ดไปเถอะ ผมขอเน้นที่ความเร็วอย่างเดียวก็พอ


แลดูผมวิ่งมานานมากจนสามารถฝอยเรื่องตัวเองให้พวกคุณได้อ่านยาวหลายบรรทัดเลย แต่ก็ถูก เพราะก่อนจะเริ่มซ้อมจริงจังพวกเราต้องวิ่งรอบสนามกันคนละ 5 รอบ (บวกกับที่ผมมาสายครึ่งชั่วโมงเลยต้องโดนเพิ่มไปอีก 3 รอบ รวมเป็น 8 รอบ)

ชินแล้ว


"เร็วเลยจองชิน! ไอ้พวกอู้ซ้อม!" เสียงตะโกนของรุ่นพี่อีกคนดังขึ้นมาจากข้างสนาม แต่ผมนั้นอีโก้เยอะเกินกว่าจะหันไปมองเลยทำทีเป็นไม่ได้ยินไป


อยากรู้มั้ยว่าทำไมผมถึงมาซ้อมสาย ไม่ใช่เพราะเลิกเรียน 4 โมงครึ่งตรงเวลาหรอก ผมแค่เป็นพวกที่ต้องกลับไปใช้เวลากับตัวเองที่หอสักชั่วโมงก่อนแล้วค่อยออกมา

ซึ่งก็คือ นอนหลับ

แต่อยากจะบอกให้รู้ว่าไอ้การนอนก่อนมาวิ่งเนี่ยมันไม่ได้มีข้อดีแค่ทำให้เรากระปรี้กระเปร่าหรือเหนื่อยช้าลงนะ แต่มันยังทำให้ผม...ได้ขึ้นรถโดยสารของมอออกมาที่นี่พร้อมกับน้องคนนึงทุกเย็น

แล้ว ตอนนี้เขาก็เตะบอลอยู่กลางสนามนั่นไง


ที่ผ่านมาไม่เคยรู้สึกอยากอยู่ใกล้ลูกบอลมากขนาดนี้มาก่อน อย่างที่บอกว่าไม่ชอบเล่นบาส เอ่อ จริง ๆ ผมหมายถึงกีฬาทุกประเภทที่ต้องมีอุปกรณ์การเล่นน่ะแหละ แต่หนนี้กลับเอาแต่เฝ้ารอว่าเมื่อไหร่น้องเขาจะเผลอทำบอลหลุดออกมาข้างสนามแถว ๆ ตรงที่พี่วิ่งอยู่บ้างสักทีนะ

อยากเข้าไปทำความรู้จักแล้วอะ


"เฮ้ยไอ้โย่ง! รอบที่สิบแล้วมั้งมึงอะ" เนี่ย ก็เพราะมันไม่มีนกหวีด ไอ้ทึ่มนั่นเลยต้องใช้วิธีแหกปากสั่งให้ผมหยุดแทน
"เออ รู้แล้ว" ผมชะลอฝีเท้าวิ่งเหยาะ ๆ ออกนอกสนามมา สีหน้าของยงฮวาตอนนี้ดูก็รู้ว่ากำลังหงุดหงิดเสียงปรี๊ด ๆ จากพวกนักกีฬาทีมอื่นที่มาแชร์สถานที่ฝึกซ้อมกับเรา
"กูไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าทำไมเขาไม่หาที่ฝึกดี ๆ ให้ไอ้พวกกระโดดสูง" มันบ่นพลางส่งสายตาเหยียดไปตรงจุดที่มีเบาะหนา ๆ วางอยู่ "แล้วดู น่ะ พอแม่งจะสตาร์ทกันทีก็ต้องไปเริ่มจากริมสนามแทนเพราะกลางสนามมี นักบอล ขวางทางพวกเราอีก"
"เอาน่าพี่ เราไม่ได้วิ่งตลอดเวลาอยู่แล้วหนิ"
"มันขัดหูขัดตากู อีกอย่าง กูเกลียดขึ้หน้าโค้ชพวกมัน ไอ้มินฮยอก"


กะไว้อยู่แล้วว่าที่หัวร้อนแบบนี้ต้องเป็นเพราะเห็นหน้าอริคนสำคัญของมัน เทอมที่แล้วไอ้ยงฮวากับมินฮยอกเกือบได้ดวลหมัดกันเพราะเด็กเรากับเด็กมันเสือกวิ่งชนกันอย่างจัง เด็กมันฟันเฉาะหัวเด็กเราคิ้วแตกเลือดอาบหน้า

เอ...หรือว่าบางทีผมอาจต้องลองวิ่งไปเอาฟันเฉาะหน้าพวกนักบอลดูบ้าง เผื่อผมกับน้องเขาจะได้มีโอกาสคุยกัน


"เอ้อ จองชิน" เรียกกันแบบนี้สงสัยจะใช้งานอะไรแน่ ๆ "วันนี้สวัสเราถูกเรียกตัวไปดูแลนักว่ายน้ำที่อะควอเรียม แปลว่าจะไม่มีใครยกน้ำมาให้เรา"
"อืม จะให้ผมไปซื้อว่างั้น" คำถามนี้ไม่จำเป็นต้องมีคำตอบเพราะโค้ชของเรายื่นตังค์มาให้เรียบร้อย
"อะไรก็ได้ในงบเท่านี้ วิ่งไปวิ่งกลับห้ามอู้ เข้าใจ๊!"


ยังดีที่ผมนับว่าการโดนใช้ไปซื้อน้ำถือเป็นการอู้อย่างหนึ่ง แถมร้านสะดวกซื้อก็อยู่ไกลจากตรงนี้ด้วยสิ อ่า ขอเดินมองน้องเขาหน่อยละกัน-- อะ อ้าว หายไปไหนแล้วล่ะ

ผมก้มลงมองนาฬิกาข้อมือเลยรู้ว่าตอนนี้เป็นเวลาพักของพวกนักบอล ว้า แย่จัง ปกติก็ไม่เคยสังเกตซะด้วยสิว่าพอพักแล้วน้องเขาจะชอบไปอยู่ที่ไหน


เสียงออดอันแสบแก้วหูของร้านค้าดังขึ้นพร้อมกับที่ผมเปิดประตูเข้ามา เห็นพนักงานแคชเชียร์เอามือปิดจมูกทำหน้ายู่ก็รู้ทันทีว่าทุกคนที่อยู่ในนี้ทั้งหมดล้วนเป็นนักกีฬาเหงื่อโทรมกาย หนึ่งในนั้นก็รวมถึงผมด้วยเช่นกัน


"ซึงฮยอน มึงจะแดกอะไรวะ มาช่วยกูหารเอสหน่อยมันแลกซื้อสองขวดยี่สิบ"
"ไม่เอาอะ จงฮุนไม่ให้กินน้ำอัดลมไม่ใช่เหรอ"
"เขาหมายถึงอย่ากินให้เขาเห็นต่างหากเล่า"
"กูคงกินแค่น้ำเปล่าพอว่ะ"
"เอ้าไอ้นี่--"

"งั้นมาแชร์น้ำเปล่ากับพี่แทนมั้ยครับ พอดีว่าจะซื้อเป็นแแพ็คแต่พวกพี่มีแค่สิบเอ็ดคน"


เนี่ย ถ้าจังหวะมันจะได้ทักมันก็ต้องทักปะวะ









 〓 









ตอนที่น้องซึงฮยอน...อ่า ในที่สุดก็รู้จักชื่อ...กำลังเถียงกับเพื่อนของเขาก็เป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ผมยืนอึ้งอยู่นั่นแหละ

เชี่ยเอ๊ย พอเหงื่อออกแล้วน่ารักกว่าตอนยังตัวสะอาด ๆ อีก


"เอ่อ..."
"เนี่ย ถ้าแบ่งกันกับของพี่ก็จะได้ราคาถูกกว่าด้วยนะ" ฮั่นแหนะ เมื่อกี๊เขาหลบตาผมด้วยแหละ
"ก็ได้ครับ"


ครั้งแรกที่ผมเจอซึงฮยอนก็เนี่ยแหละ ช่วงเย็นก่อนมาซ้อม น้องเขาอยู่หอในเหมือนกับผมแต่ว่าน่าจะอยู่คนละตึก มารอขึ้นรถมอที่ป้ายด้วยกันทุกวันไม่รู้จำหน้าผมได้บ้างรึยัง


"เราเจอกันเกือบทุกวันเลยนะ บนรถตอนมานี่" ผมว่ามันคงถึงเวลาที่ต้องลองหยอดอะไรดูหน่อยแล้วล่ะ ก็ไม่อยากให้เกิดเด๊ดแอร์ระหว่างที่เขากำลังช่วยผมแกะแพ็คน้ำดื่มอะนะ
"ครับ ผม จำได้" ซึงฮยอนตอบยิ้ม ๆ "เราไม่ได้อยู่ปีเดียวกันหรอกเหรอ"
"พี่อยู่ปีสี่แล้วครับ" ฝากถึงคนอ่าน ถ้ารู้สึกว่าผมพูดเต๊าะน้องเขาเกินไปช่วยรีบเตือนผมด้วยนะครับ ฮือ "ก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็นเราที่สนามเอเลย เพิ่งติดทีมเหรอ"
"อ่า ผมเพิ่งเข้าทีมมาตอนปีสองเนี่ยแหละ"


หลังจากที่น้องซึงฮยอนหยิบขวดไปผมก็บอกลาเขาแล้วเดินแบกน้ำออกมา แน่นอนว่าผมมีแผน แหะ ๆ หวังว่าเขาจะนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้จ่ายตังค์นะ


"เดี๋ยว พี่ครับ!" เหนือคาด นอกจากเสียงตะโกนเรียกดังลั่นเมื่อกี๊ผมยังได้ยินเสียงฝีเท้าวิ่งตามผมมาด้วย "พี่ยังไม่ได้เอาเงินเลย"
"เอ้อ จริงสิ" ขอทำเนียนต่อไปหน่อย "แต่ตอนนี้พี่ไม่มีมือเลยอะ งั้น...ให้เราฟรีละกันนะ" ใช่ ผมก็แค่อยากเปย์เด็ก


ผมทิ้งให้ซึงฮยอนยืนอ้ำอึ้งอยู่ข้างหลัง เอาจริงเรามันก็แอบป๊อดนิดนึงแหละ ผมไม่อยากให้เขามองว่าผมเป็นคนหน้าม่อหรืออะไรทำนองนั้น เราสองคนเพิ่งคุยกันครั้งแรก แล้วน้องเขาก็ดูเหมือนจะเป็นคนเงียบ ๆ กึ่งโลกส่วนตัวสูงด้วย ถ้ายิ่งรุกหนักมันอาจจะยิ่งแย่ก็ได้

เดินบ่นเสียดายในใจได้ครู่เดียวก็ต้องชะงักฝีเท้าลงเมื่อรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างรุกล้ำเข้ามาในกระเป๋าพร้อมเสียงเหรียญจำนวนหนึ่งกระทบกันอยู่ในนั้น


"นี่ไง ไม่เห็นจะยากตรงไหน" คนพูดยังปล่อยมือคาไว้ในนั้นเชิงเป็นการเฉลยปนอวดความคิดแก้ปัญหาของตัวเอง


แต่ ทำไมผมกลับเขิน ๆ บอกไม่ถูก

แล้วก็ ไม่ชอบรอยยิ้มนั่นเลย


"อ่าฮะ" อ่าวเฮ้ย ทำไมกูพูดออกไปได้แค่เท่านี้เองวะ


และนั่นก็คือบทสนทนาทั้งหมดของเราสองคนในวันนี้ก่อนที่ผมจะต้องรีบกลับไปหาข้อแก้ตัวสำหรับน้ำดื่มหนึ่งขวดที่หายไปกับไอ้พี่ยงฮวาต่อ









 〓 









เวลาผ่านไปหลายสัปดาห์ อีกไม่กี่วันจะถึงช่วงลงแข่งจริงแล้วทำให้นักกีฬาทุกคนต้องซ้อมกันจนดึกดื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง...ทีมฟุตบอล


"อ้าว จองชิน"
"ไง"
"คืนนี้พี่ซ้อมเสร็จดึกอีกละเหรอ" เด็กหนุ่มมีสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อยที่เจอกับผมในเวลาเกือบเที่ยงคืนแบบนี้ อีกอย่าง เขาคงสังเกตเห็นด้วยแหละว่าพวกนักวิ่งออกจากสนามไปตั้งแต่สี่ทุ่มแล้ว


ว่าแต่ทำไมผมยังอยู่ที่นี่ล่ะ


"อ๋อ เอ่อ พอดีพี่ไปหอเพื่อนตรงนั้นมาน่ะ" เหตุผลนี้น่าจะฟังขึ้นนะเพราะแถวสนามโซนเอก็มีหอพักนักศึกษาชายตั้งอยู่ข้าง ๆ "จะกลับหอก็ต้องเดินผ่านตรงนี้หนิ พี่แวะมาดูเผื่อเจอเราจะได้เดินกลับเป็นเพื่อน"


เหมือนทุกวัน...


จริง ๆ หอเพื่อนน่ะเข้าไปแล้ว ออกมานานแล้วด้วย แต่หลังจากนั้นผมก็ไปหาทำเลดี ๆ สำหรับการนั่งจ้องไฟสปอตไลท์ของสนามว่าจะดับเมื่อไหร่ เพราะนั่นคือเวลาที่นักบอลเลิกซ้อม ผมทำแบบนี้ทุกวัน เดินคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นนู่นนี่กับน้องเขาจนเราสนิทสนมกันมากขึ้น แต่ละคืนเราผลัดกันเดินไปส่งที่หอของแต่ละคนด้วยเหตุผลที่ว่า "ผมเกรงใจ วันนี้ให้ผมไปส่งพี่บ้างเถอะ" เป็นอย่างนี้มานานจนผมเริ่มถามกับตัวเองแล้วว่า ถึงเวลารึยัง


"วันนี้เพื่อนพี่คนนั้นไม่มาด้วยเหรอครับ" ซึงฮยอนคงหมายถึงไอ้จีบินที่เมื่อคืนก่อนมันขอเดินกลับด้วยเพราะต้องไปทำงานกับเพื่อนที่บังเอิญอยู่หอเดียวกับเขา
"ถามทำไม" เออ แล้วนี่ผมจะโมโหทำไม
"ไม่มีอะไรแค่ เดินด้วยกันหลาย ๆ คนมันก็ไม่เหงาดี"
"แสดงว่าตอนนี้นายเหงา" ผมลองหยอดคำถามที่อาจฟังดูเหมือนอ่อยแต่จริง ๆ แล้วต้องการจะประชดไปให้
"ไม่ใช่อย่างนั้นซะหน่อย"


ทางเดินกลับหอในช่วงกลางดึกแบบนี้ถึงจะมีไฟส่องสว่างตลอดแนวแต่ก็ไม่ได้ช่วยลดความน่ากลัวลงได้ เราสองคนเร่งฝีเท้าในระดับที่คนเป็นนักกีฬายังรู้สึกเฉย ๆ เพื่อให้ไปถึงที่หมายเร็วที่สุด และครั้งนี้ก็เป็นคราวของผมที่จะต้องเดินไปส่งซึงฮยอนที่ใต้หอ


"เจอกันพรุ่งนี้ ที่เดิม เวลาเดิม" ผมนัดแนะกับเขา รู้สึกว่าการบอกลารอบนี้จะทำให้ตัวผมเองใจสั่น...โคตร ๆ
"โอเค"
"เดี๋ยว ซึงฮยอน"
"..." เขาหันกลับมาแล้ว ผมควรใช่มั้ย ควรที่จะถามคำถามนี้ออกไปใช่มั้ย




"พี่ ขอจีบเราได้รึเปล่า"









 〓   TBC   〓 



อ่าน ขอ...เรื่องที่สอง ที่นี่

January 23, 2018

[OS/Eng.] FTISLAND 'LOVE THE RADIO' (SEUNGJAE)










-  -  - ⋉   ⋊⋉   ⋊ -  -  -
genre  :
  a/u,  songfic

pairing  :  seunghyun  x  jaejin
rating  :  pg-13
-  -  - ⋉   ⋊⋉   ⋊ -  -  -




"how long will i love you...
as long as stars are above you and longer if i can

how long will i need you...
as long as the seasons need to follow their plan

how long will i be with you...
as long as the sea is bound to wash up on the sand

how long will i want you...
as long as you want me to and longer by far

how long will i hold you...
as long as your father told you as long as you can

how long will i give to you...
as long as i live through you however long you say

how long will i love you...
as long as stars are above you and longer if i may"



"wow, seunghyun-ssi, your english accent is very sexy. listeners, do you agree with me?"

"haha, not that much."

"i really believe you just made all of us blushed! alright, that was the acoustic cover of ellie goulding's how long will i love you by song seunghyun, our tonight guest. everyone, let's give a big hand for him."

"thank you."

"but, usually, our guests use their own songs to sing or play here. why do you choose ellie's? why this song?"

''i think your fans are so bored with my works haha."

"nah, kid, you're absolutely wrong! song seunghyun's latest single neolaneun gyejeol just hits number one on the station's weekly chart. maybe they get bored because we play it for about twenty times a day, due to plenty of request messages we've received."

"okay okay, i was just kidding. actually, i choose this song because i want to sing it for someone..."

"wait a sec! my lovely listeners, did you here that? oh my goodness! seunghyun just told us he's in love!"

"haha yeah."

"oh god! pd-nim, please call an ambulance. i think i'm going to faint."

"don't you dare! if you leave then who will be the dj?"

"good question, everyone, it's 10:36 pm now and you're with special dj song seunghyun on LOVE THE RADIO--"

"wait what..."

"for the tonight topic, i guess you guys already know, our dj's gonna share his sweet and romantic lovelife story that has never been told before..."

"please, stop that haha. i... i don't think people want to know--"

"woah! look at the monitor. your fans are now going crazy about the news. i can't catch the sms. they're going too fast. seunghyun-ssi, could you read some of them for me please?"

"ah... yeah, give me a second to... oh guys just calm down haha."

"what is it?"

"it's from lee hongki... seems like a fanboy... he says 'my wife really likes you but can you tell me the name of your gf so i can make sure that she is not cheating on me?' haha, this is really funny."

"so you still think he's your fanboy? haha"

"not anymore. uh... can i say something to him?"

"of course, you haven't answered his question yet."

"isn't he joking?"

"come on kid! you've got to prove that you're clean haha."

"well..."

"what's her name? who's that lucky girl? tell us please!"

"sorry to say that i'll give you the first letter only."

"it's okay. whatever you want."

"alright, the name... it begins with J."

"so, we finally have a clue. let's find out who she is!"

"and, to lee hongki-ssi, i am one hundread percent sure that even though your wife likes me, she loves you. don't worry. just buy her my next album haha."

"that's very useful advice. now we can go back to the main topic."

"i once thought the main topic was about my recent work."

"yes, it was, in the past."

"but you've changed it? when--"

"five minutes ago, yep! so, why don't we pick another sms from your fans... ah i got this, 'oppa, how did you meet her? and so now you're taken?' two questions. two answer."

"well, to be honest, i'm not in a relationship yet."

"wait... but you just--"

"and for the question 'how did i meet J?', umm let me think... when we were in middle school..."

"really? that means you have known each other for a long time."

"yeah."

"and you've been falling in love with her since then?"

"uh no, J is not my love at first sight, not really..."

"not really?"

"i'm not exactly sure when it started, my feeling for you, but i know it never changes."

"aww what you just said is like she's listening to us all along."

"i hope so."

"seunghyun-ssi, you're such a romantic guy. i'm kinda envious of her. but, what do you mean you're not in a relationship yet?"

"i... am waiting."

"oh... well, okay everyone! it's time for another pretty song chosen by our guest. this is nct's doyoung and sejeong of gugudan's star blossom. he wants to send it as a gift for tonight to you all."



.
.
.
.
.



     "you went outside today?", said the man who just arrived home.


     no answer.


     "did you go visit him?" seunghyun walked into the living room talking to his only housemate. "have you eaten anything yet?"

     "i'm not hungry."

     "jaejin, you don't look well." he looked at his pale face attentively. "it's a bit rainy today. did you walk in the rain?"

     "just a little."

     "want some hot cocoa? i can make it for y--"

     "are you deaf? i said i'm not hungry."


     the house turned silent again after that cold-hearted sentence. seunghyun moved himself into his bedroom. he's still wondering about what he had told jaejin to do...


     "i'll be appearing on a radio program tonight. make sure you don't miss because i've got something for you."


     no one may think he had listened to the show, according to that weird and awkward situation when two of them met each other.

     but, what if it is something the musician gets used to already?



.
.
.



     "why don't you go to bed? it's so late now." sleepless guy asked another resident who was sitting on the couch staring at tv but not focused on anything in it. "are you dozing off?!?"

     "huh, what the h--" jaejin awakened from sleep as seunghyun turned the television off.

     "go to your room, jaejin."

     "but i want to watch the show."

     "i saw you sleeping and i didn't think you wanted to watch the TVCs at 2 am."

     "so what? i can do everything i want." he replied with an expressionless face. "and for me, the word everything means everything that is not your business."
     

     the man forced himself to smile at him.

     is it a normal thing here?
     yes, it is.

     is jaejin the same person as 'J' which seunghyun mentioned in that radio program?
     yes,
     he is.


     "and you know what, seunghyun, those TVCs are even better than that silly song you played."

     "what!?...why--"

     "by the way, thanks for not revealing my name. i really hate being famous."

     "why are you so cold to me?" the taller one came closer, gazing at the one and only person he's been falling in love with for more than ten years intentionally. "why do you always reject me? it's been two years. you need to move on rather than just sit on the couch thinking of a thing that doesn't exist anymore."

     "move on? move on what? to love a monster like you?!?"


     everything didn't turn out the way seunghyun expects. jaejin began to cry. many tears were falling down from those sorrowful eyes and all he can do was just watching...


     "you'll never know how much this monster loves you."

     "of course, i won't." jaejin gave seunghyun another familiar cold-blooded look as he didn't even care if what he had said would break the other one's heart.

     "and all of things it does for you..."

     "please, stop trying to be like him. it doesn't work."

     "wh...what are you talking--"

     "this time, i beg you" he paused the sentence to swallow his whimper "to stop trying to be sehyun."

     "..."

     "if you think you can replace him, you're absolutely wrong."



.
.
.



     it's been two years since that day...

     when jaejin lost his lover
     and i... lost my brother.


     "i'm sorry."


     we were very drunk that night. sehyun said he couldn't even walk, so i offered myself driving him home.

     and... it happened.


     "you son of a bitch! he died...because of you!"


     there's no more optimistic and warm-hearted man i'd known. jaejin changed a lot after the car accident while i became an evil for him.



.
.
.



     dear god,
     why not me?

     if you don't want me to be loved,
     why didn't you take me instead?



.
.
.



     "just give me one more chance..." seunghyun knelt down in front of the man he's been loving for so long. "i promise i'll take care of you as much as he did."


     back in the past, they were such really close friends and then jaejin met sehyun, seunghyun's little brother.

     things changed after that, 
     except his love for jaejin.


     "you can't even save your brother..." he looked away to hide his tears. "and now you want to take care of me--"
     "for all my life. jaejin, please... i love you." it's not the first time seunghyun said that. "i only need just one chance."
     "sorry."
     "..."
     "i've given it to you...back when we're young. but you let it all go."
     "what do you mean?"
     "i'd been waiting for you to say you love me until sehyun..."
     "what... no..."
     "and it's too late now."



.
.
.



     "i can't love you again."




- - - ⋉ ⋊⋉ ⋊ - - -
the end
- - - ⋉ ⋊⋉ ⋊ - - -






 writer's part 

    thank you so much for reading til the end LOL this is my first ever english fanfiction 🎉 well, english is not my first language so guys please feel free to correct my grammar 😊 you can tell me what you think or give me any advice by leaving a comment below 👇