July 14, 2017

[FANFIC/Chapter 02: และนี่คือต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด] FTISLAND&N.Flying 'Cloudy' (SEUNGJAEhyun)

CHAPTER 2     และนี่คือต้นเหตุของเรื่องราวทั้งหมด












     สมาธิในการเรียนคาบบ่ายของนักเรียนมัธยมต้นชั้นปีสุดท้ายคนหนึ่งถูกแทนที่ด้วยภาพและคำพูดของผู้ชายที่เขาเจอตอนพักกินข้าว...



     ‘แล้วเจอกันอีกนะ แจฮยอน
     จำหน้าพี่ไว้ด้วยล่ะ อย่าเพิ่งลืมกัน’



     ‘ผมไม่มีทางลืมใบหน้าของคนที่เป็นรักแรกพบของตัวเองอยู่แล้วล่ะฮะ’






     เลิกเรียนแล้ว ในขณะที่เพื่อนคนอื่นยังนั่งจับกลุ่มเม้าท์มอย บ้างก็จะออกไปนั่งชิลล์ที่คาเฟ่ใกล้โรงเรียน แจฮยอนรีบเก็บอุปกรณ์ต่างๆของตัวเองและเตรียมตัวกลับบ้าน



     “คิม แจฮยอน!” เสียงใสจากเด็กผู้หญิงคนหนึ่งตะโกนเรียกชื่อเขาดังลั่น



     คนถูกเรียกหันตามไปยังที่มาของเสียงนั้น



     “เย็นนี้ นายอยากไปกินไอติมกับชั้-- เอ้ย พวกเรามั้ย”



     ดูก็รู้ว่าเธอคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่…



     “เอ่อ ชั้น วันนี้ชั้นไม่ว่างน่ะ” เด็กหนุ่มตอบ
     “อ่าว เหรอ งั้น กลับบ้านดีๆนะแจฮยอน”



     แจฮยอนโบกมือลาเด็กผู้หญิงใบหน้าสวยแล้วรีบเดินออกไปจากห้อง



     “น่ารำคาญซะจริง”



     เพื่อนร่วมห้องคนนี้พยายามเข้าหาแจฮยอนมาตั้งแต่เปิดเทอม แต่เขาไม่เคยสนใจเธอ แน่นอน เพราะว่าแจฮยอนไม่ได้ชอบผู้หญิง แถมยังจำชื่อเธอไม่ได้เลยด้วยซ้ำ


     บ้านของแจฮยอนอยู่ห่างจากโรงเรียน 4 กิโลเมตร นับว่าเป็นระยะทางที่ค่อนข้างไกล แต่เขาก็เลือกเดินเท้ากลับแทนที่จะนั่งรถประจำทางซึ่งต้องเสียเงิน ฐานะทางบ้านของแจฮยอนไม่ได้ดีมากนักหากเทียบกับญาติคนอื่นๆ พ่อแม่ของเขาติดเหล้า ติดการพนัน และไม่ค่อยสนใจความเป็นอยู่ของลูก


     ส่วนตัวเองก็อยู่ในจุดที่เรียกว่า ‘ปลง’ กับชีวิตครอบครัวของเขา เด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักคนนี้มองโลกในแง่ดีและแข็งแกร่งกว่าเด็กทั่วๆไปในรุ่นราวคราวเดียวกันกับเขาหลายเท่านัก บ่อยครั้งที่พ่อกับแม่ออกไปกินเหล้า เล่นไพ่ จนไม่กลับบ้านกลับช่อง แจฮยอนเลยต้องอยู่บ้านคนเดียว ซึ่งสำหรับเขานั่นก็ไม่ถือเป็นปัญหาอะไร กลับชอบด้วยซ้ำ


     การอยู่คนเดียวทำให้แจฮยอนได้ใช้เวลาทำอะไรกับตัวเอง คิดกับตัวเอง พูดกับตัวเอง


     แต่ด้วยเหตุผลนี้ จึงทำให้เขากลายเป็นคนไม่มีเพื่อน…






     ลมประจำฤดูพัดพาเอาใบไม้หลากเฉดสีที่เพิ่งร่วงหล่นจากต้นกระจายว่อนไปทั่วทั้งโรงเรียน เช่นเคย แจฮยอนกำลังจะกลับบ้าน เด็กชายรีบยกมือยกแขนขึ้นมาปิดป้องไม่ให้ฝุ่นและเศษกิ่งไม้ปลิวเข้าใบหน้า


     แต่ลมที่พัดแรงกว่าทุกวันพาบางสิ่งที่ใหญ่กว่าใบไม้มาหาแจฮยอน เด็กหนุ่มชะงักเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ขาของตัวเอง มันคือ กระดาษโฟลว์ชาร์ท ของนักเรียกคนไหนสักคนที่ซุ่มซ่ามปล่อยให้สายลมชวดชิงมันมาได้


     ร่างเล็กก้มลงหยิบกระดาษแผ่นนั้นขึ้นดู ที่มุมกระดาษมีลายมือชื่อเจ้าของเขียนไว้อย่างหวัดๆ



‘송 승현’



     ดวงตาใสของแจฮยอนเบิกกว้าง ถึงแม้ว่าในโรงเรียนอาจมีคนชื่อนี้มากกว่าหนึ่ง แต่ถ้ามันเป็นของรุ่นพี่คนนั้นจริงๆล่ะ จะเป็นไปได้ไหม ถ้านี่คืองานของซึงฮยอน ผู้ชายที่เขาเจอเมื่อสัปดาห์ก่อน และ ตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบ…



     ”โทษนะครับ”



     โชคดีที่แจฮยอนยังจำเสียงของซึงฮยอนได้แม่น เขารีบหันไปทันที
     แล้วเราก็ได้เจอกันอีกครั้ง



     “อ้าว แจฮยอน” รุ่นพี่ตัวสูงยิ้มกว้าง



     หนุ่มน้อยแจฮยอนไม่สามารถเก็บซ่อนความเขินอายไว้ได้อีก ใบหน้าขาวขึ้นสีแดงระเรื่อ รุ่นพี่ซึงฮยอนในวันนี้หล่อกว่าวันแรกที่เจอกันมาก ชายเสื้อนักเรียนหลุดออกมาจากกางเกงเกือบหมด และจิวเล็กๆสีเงินที่หูข้างซ้ายนั่น


     ซึงฮยอนในลุคแบดบอยกำลังทำให้เด็กผู้ชายคนนี้คลั่งไคล้เขามากขึ้นเรื่อยๆ



     “ว้าว โชคดีจังที่การบ้านพี่ปลิวมาหยุดที่ขาใครพอดี แล้วก็โชคดียิ่งกว่า ที่คนๆนั้นคือนาย”
     “เอ่อ ฮะ ฮยอง ทีหลังก็ระวังหน่อยสิฮะ”
     “อ้าว ดุใส่เฉยเลย อย่างน้อยความไม่ระวังของพี่ก็ทำให้เราได้เจอกันอีกนะ”



     แจฮยอนซ่อนยิ้มไว้ไม่ได้อีกแล้ว คำพูดประโยคนี้ของซึงฮยอนกำลังทำให้เขาคิดเพ้อไปไกลมาก



     “กำลังจะกลับบ้านเหรอ”
     “ฮะ”
     “กลับยังไงน่ะ”
     “ก็ เดินกลับฮะ”
     “บ้านอยู่ไกลรึเปล่า”
     “ก็... ไม่ใกล้”
     “ให้พี่ไปส่งมั้ย พี่มีมอไซค์น่ะ”



     ไม่มีเหตุผลที่จะต้องปฏิเสธ แค่คิดว่าจะได้ซ้อนท้ายคนที่ตัวเองแอบชอบกลับบ้านมันก็ฟินยิ่งกว่าเวลาอ่านนิยายรักวัยใสแล้วต้องมโนว่าตัวเองเป็นนางเอกตั้งกี่เท่าแล้ว



     “จะเกาะเอวพี่ไว้ก็ได้นะ เราตัวเล็ก พี่กลัวกระเด็นร่วงลงไป ฮ่ะๆ”
     “เห็นแบบนี้ ผมก็ฟิตนะฮะ”



     ถึงจะพูดแบบนั้น แต่สองแขนเล็กๆของแจฮยอนก็โอบเอวซึงฮยอนไว้เป็นที่เรียบร้อย






     “บ้านเรามันไม่ได้ใกล้โรงเรียนเลยนะ แล้วนี่ต้องเดินเท้าไปกลับทุกวันเลยเหรอ ทำไมไม่นั่งรถเมล์”
     “ผมว่ามันก็ไม่ไกลมากนะ อีกอย่าง ผมเก็บตังค์อยู่น่ะฮะ”



     ระหว่างคุย ซึงฮยอนมองสำรวจบ้านหลังขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่แต่ค่อนข้างโทรมของแจฮยอน



     “ไม่มีใครอยู่บ้านเหรอ”
     “อ่อฮะ ปกติแหละ ผมอยู่บ้านคนเดียวบ่อย”
     “คงเหงาแย่... นี่ แจฮยอน ถ้าวันไหนเราเลิกเรียนใกล้ๆกัน ก็ให้พี่มาส่งที่บ้านก็ได้นะ”



     หลังบอกลากัน ซึงฮยอนกำลังจะสตาร์ทรถ แจฮยอนที่ยังยืนอยู่หน้าบ้านรีบเดินกลับไปหาเขา มือข้างหนึ่งเอื้อมไปแตะที่ตักซ้าย



     “มีอะไรเหรอ” ซึงฮยอนเงยหน้าขึ้นมองแจฮยอน



     มือเล็กค่อยๆลูบสูงขึ้นไป… ทั้งคู่สบตากันอยู่หลายวินาที แต่แล้วก็



     “กลับ...ดีๆ นะฮะ” เด็กหนุ่มชักมือของตัวเองออกในขณะที่ซึงฮยอนยังคงจ้องหน้าเขาอยู่ ไม่นานนัก มอเตอร์คันนั้นก็แล่นออกไป



     ‘ฮยองก็รู้สึกเหมือนกับผมใช่มั้ยฮะ’






     หลังจากวันนั้น ซึงฮยอนขี่มอเตอร์ไซค์มาส่งแจฮยอนที่บ้านทุกเย็น ไม่ได้จบเท่านี้ แจฮยอนเริ่มเชิญชวนให้เขาเข้ามาในบ้าน บางวันซึงฮยอนก็เป็นคนขอเข้ามาเอง


     บางวัน… ก็แทบไม่ต้องขอ ไม่ต้องเชิญ






     ทั้งสองสนิทสนมกันมากจนฝ่ายหนึ่งเริ่มไว้ใจและเล่าเรื่องส่วนตัวให้อีกฝ่ายฟัง แจฮยอนบอกเล่าถึงความเฮงซวยในครอบครัวของเขาและพ่อแม่ที่เอารายได้เกือบทั้งหมดไปแทงพนัน



     “ผมชินแล้วฮะ คนเรามันเลือกเกิดเลือกอยู่ไม่ได้หนิ”



     “แต่บางทีก็มีเหงาเหมือนกัน…” เด็กชายผู้เป็นเจ้าของบ้านลงบันไดมาในสภาพท่อนบนใส่เสื้อกล้ามสีขาว แต่ท่อนล่างยังเป็นกางเกงนักเรียน “ผมดีใจที่เราได้เป็นเพื่อนกันนะฮะ”



     ร่างเล็กเดินมานั่งลงบนโซฟาข้างๆกับซึงฮยอน ไม่รู้ว่าเขาตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ แต่วันนี้เสื้อกล้ามที่แจฮยอนใส่นั้นบางกว่าของวันอื่น
     บางจนอีกคนมองเห็นจุดสีชมพูจางๆสองจุดที่หน้าอก



     “แต่ฮยองฮะ ผมถามไรหน่อยได้มั้ย”
     “ว่า”
     “ฮยองยังไม่มีแฟนเหรอฮะ”
     “อ๋อ ยังไม่มี”
     “หล่อๆแบบนี้ ยังโสดจริงเหรอฮะ”



     แจฮยอนยื่นหน้าเขาไปใกล้ ซึงฮยอนที่บังเอิญหันสายตาไปเห็นริมฝีปากแดงอวบอิ่มถึงกับต้องแอบกลืนน้ำลายแล้วรีบเบนหน้าหนี



     “คือ จริงๆแล้วพี่ตามจีบคนนึงอยู่น่ะ”
     “ว้า... รู้จักกันมานานยังฮะ” 
     “ก็ สี่เดือนแล้ว เขาแก่กว่าพี่สองปี”
     “อ๋อ รุ่นพี่มหาลัยนี่เอง”



     ทีแรกซึงฮยอนมีความคิดว่าแจฮยอนจะรู้สึกเสียดายเมื่อรู้ว่าเขามีคนที่ชอบอยู่แล้ว แต่กลับกัน คนถามกลับแสดงท่าทางที่ปกติมาก
     ผิดกับเมื่อกี๊ที่รู้เลยว่ากำลังให้ท่าเขา



     “แล้วทำไม เค้ายังไม่รับรักฮยองอีกล่ะฮะ”



     แจฮยอนรู้ว่าคำถามนี้ของเขาพุ่งเข้าไปจี้ใจดำซึงฮยอนได้อย่างตรงจุด คิ้วของคนตรงหน้าเริ่มขมวดเขาหากัน



     “นั่นสิ”
     “มันอาจเป็นเพราะ ของ ของฮยอง ยังไม่ดีพอรึเปล่า”
     “หมายความว่าอะไร”



     ร่างเล็กเขยิบตัวเข้าไปใกล้ขึ้นอีก ซึงฮยอนนั่งตัวแข็งทื่อ กว่าจะรู้สึกตัวอีกทีก็ตอนที่อีกคนเอามือมาวางบนตำแหน่งที่ใกล้ตรงส่วนนั้นมาก…



     “ก็ ของ แถวๆนี้ไงฮะ”



     ซึงฮยอนรู้สึกถึงแรงกดจากมือนั้นที่พยายามบังคับให้ขาของเขาถ่างออก



     “คนที่พี่ชอบ เขาไม่ใช่คนแบบนั้นหรอก”
     “ทุกคนมันก็มีความต้องการกันทั้งนั้นแหละ ต่างกันที่จะมีมากหรือน้อย”
     “แม้แต่เราเอง ที่อายุแค่นี้ แต่ก็...”



     คนได้ยินถึงกับหัวเราะชอบใจ ซึงฮยอนเองเริ่มรู้สึกว่าเด็กผู้ชายคนนี้ไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนกับหน้าตาของเขาเลย



     “ว่าไงล่ะฮะ เริ่มไม่แน่ใจแล้วใช่มะ”
     “...”
     “งั้น ให้ผมช่วยตรวจสอบคุณภาพให้มั้ยฮะ”



     ซึงฮยอนรู้ว่าการตรวจสอบคุณภาพที่แจฮยอนพูดถึงมันคืออะไร แต่ทำไมเขาชักอยากจะเล่นสนุกไปกับเด็กคนนี้ด้วยนะ


     หรืออาจเป็นเพราะเขาก็ไม่แน่ใจจริงๆแหละ ว่า ของ ของตัวเอง มันจะดีพอที่จะทำให้พี่แจจินประทับใจ…



     ‘คงไม่เสียหายหรอกมั้ง อีกอย่าง เรายังโสด
     แล้วคนตรงหน้าตอนนี้ แจฮยอน เขาก็เสนอตัวเอง’



     “แล้ว… ไอ้การตรวจสอบคุณภาพเนี่ย มันมีขั้นตอนอะไรบ้างเหรอ”
     “ก่อนอื่น ก็ต้องวอร์มปากให้คนตรวจก่อนนะฮะ”



     หนุ่มน้อยวัยสิบห้าปีเข้าจู่โจมริมฝีปากของรุ่นพี่ม.ปลายทันทีที่พูดจบ แจฮยอนไม่ยอมให้คนที่แก่กว่าได้เป็นฝ่ายรุก ปากอวบอิ่มบดเบียดไปทั่วบริเวณ ลิ้นลื่นลาบล้วงเข้าไปสำรวจทั้งโพรงปากของอีกคนจนแทบขาดอากาศหายใจ


     เพียงไม่กี่วินาทีของการแลกน้ำลายกัน แจฮยอนรู้ทันทีว่านี่คือจูบแรกของซึงฮยอน


     เมื่อถูกขโมยอากาศไปจนหมด คนโดนรุกไม่รีรอที่จะยุติการกระทำทั้งหมดไว้แค่นี้



     “อะไรกันฮะ แค่นี้ก็จอดแล้วเหรอ”



     ซึงฮยอนไม่ได้คิดอะไรกับแจฮยอนไปมากกว่าเพื่อนเลย มันคงไม่ใช่เรื่องง่ายนักที่เด็กหนุ่มจะสามารถปลุกกระตุ้นอารมณ์ของเขาได้โดยเร็ว



     “เราเริ่มกันเลยไม่ได้เหรอ” ตอนนี้ซึงฮยอนรู้สึกว่าแค่อยากให้มันรีบเสร็จๆไป แต่ช่างผิดกับอีกคน
     “ได้ยังไงล่ะฮะ ก็อารมณ์ของฮยองยังไม่มาเลยอ่า” ร่างเล็กปีนป่ายโซฟาขึ้นมานั่งบนตักของซึงฮยอน "มันก็ต้องปลุกให้ตื่นก่อนสิฮะ"



     แทบไม่อยากเชื่อเลยว่า นี่เขากำลังถูกแนะแนวเพศศึกษาโดยเด็กที่อายุอ่อนกว่าถึง 3 ปี


     แจฮยอนใช้ทุกส่วนของร่างกายตัวเองเท่าที่จะใช้ได้ไม่ว่าจะเป็น ปาก มือ นิ้ว บั้นท้าย มาช่วยปลุกปั่นกามอารมณ์ให้หนุ่มวัยสิปแปดปีใต้ร่างของเขา แต่มันกลับไม่ขึ้นสักที



     "ฮยองฮะ... ฮยอง ไม่รู้สึกอะไรจริงๆเหรอ"



     มันเหมือนจะมา แต่ก็ไม่มา ซึงฮยอนไม่ตอบอะไรกลับไป เขาไม่อยากให้แจฮยอนรู้ว่าที่เขาปลุกไม่ขึ้นนี่เป็นเพราะอะไร ปกติก็ไม่ใช่คนที่ขึ้นยาก แต่ทุกครั้งเวลาเขาสำเร็จมันด้วยตัวเอง เจ้าของใบหน้าเดียวที่ซึงฮยอนจะนึกถึงก็คือ พี่แจจิน



     "แจฮยอน..."
     "ไม่ ผมต้องทำให้ได้"



     ไม่ต้องบิ๊วต้องปลุกอะไรอีกต่อไปแล้ว แจฮยอนเขยิบถอยเล็กน้อย นิ้วเรียวเล็กยื่นไปหยิบซิปกางเกงนักเรียนตัวที่เขานั่งทับอยู่แล้วรูดมันออกอย่างรวดเร็ว


     ภายใต้ชั้นในสีดำนั่นมีบางอย่างที่เขาต้องจัดการ


     ซึงฮยอนบอกกับตัวเองว่าจะไม่ขอมองดูสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นไม่ว่าเด็กผู้ชายหน้าหวานคนนี้จะตรวจสอบคุณภาพเขาด้วยวิธีใดบ้างก็ตาม ตอนนี้ อีกคนลงไปนั่งคุกเข่าอยู่ที่พื้น ร่างสูงหลับตาลงและนึกภาพจินตนาการว่าคนที่กำลังปรนเปรอเขาอยู่คือ อี แจจิน


     แม้เสียงบางอย่างที่ส่งออกมาจากแถวๆตรงนั้นจะดูอ่อนวัยกว่ามาก แต่ซึงฮยอนก็พยายามคิดว่ามันคือเสียงของติวเตอร์สอนชีวะที่ตนหลงรักมากว่าสี่เดือนแล้ว


     หากถามว่าแจฮยอนทำหน้าที่ตรงนี้ได้ดีหรือไม่
     ก็ต้องยอมรับว่า มันไม่เลวเลยสำหรับเด็กอายุสิบห้า
     และเขาก็คิดว่า นี่ไม่มีทางเป็นครั้งแรกที่แจฮยอนทำอะไรแบบนี้


     ซึ่ง มันก็เป็นความคิดที่ถูกแล้ว
     นี่ไม่ใช่ครั้งแรก...


     ไม่นานนัก ซึงฮยอนก็มาถึงจุดสุดยอด ผลงานจากเขาทั้งหมดถูกเก็บกวาดอย่างหมดจดโดยแจฮยอน



     "ฮยองฮะ นี่ก็ค่ำแล้ว กลับบ้านเถอะฮะ" ขณะที่ทั้งคู่กำลังจัดแต่งตัวเองให้กลับสู่สภาพปกติ แจฮยอนก็ไล่ให้ซึงฮยอนรีบกลับไป
     "เอ่อ แล้วนายล่ะแจฮยอน นายยังไม่ได้..."
     "ไม่เป็นไรฮะ ผมจัดการของผมเองได้ ฮยองกลับไปเถอะ"






     ซึงฮยอนดับเครื่องมอเตอร์ไซค์ ยกขาก้าวลงจากเบาะรถ และแล้วก็มีเสียงข้อความเข้าดังขึ้น เจ้าของโทรศัพท์รีบเปิดเช็คดู...



               재현동생 (7:48 pm):
               ผลการตรวจสอบ: คุณภาพคับปาก ;)












-  To be continued  -






 Back to main page 

No comments:

Post a Comment